Text Neck Syndrome หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทส่วนคอ

หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทส่วนคอ

โทรศัพท์มือถือ กลายเป็นปัจจัยหนึ่งที่จำเป็นของชีวิตเรา เพราะไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การรับชมข้อมูลข่าวสาร การเสพความบันเทิง การซื้อของ ฯลฯ ล้วนอยู่ในโลกออนไลน์ทั้งสิ้น ซึ่งวิธีที่จะเข้าถึงกิจกรรมเหล่านั้นได้สะดวกที่สุด ก็หนีไม่พ้นการใช้สมาร์ตโฟน อย่างไรก็ตาม แม้เจ้าอุปกรณ์เล็ก ๆ นี้จะมีประโยชน์มหาศาล แต่การก้มมองหน้าจอตลอดเวลา เสี่ยงทำให้เราเป็นโรคที่เรียกว่า Text Neck Syndrome หรือ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทส่วนคอ

สาเหตุ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทส่วนคอ

สาเหตุหลักของ Text Neck Syndrome หรือ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทส่วนคอ

เกิดจากหมอนรองกระดูก ที่เป็นตัวคั่นกลางอยู่ระหว่างกระดูกสันหลังส่วนคอแต่ละชิ้น มีหน้าที่เปรียบเสมือนโช้คอัพที่รองรับแรงกดจากศีรษะ ต้องรับน้ำหนักที่เกิดจากความดันภายในข้อกระดูกบริเวณคอมากกว่าปกติ หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ทำงานหนักเกินไป ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เราก้มมองโทรศัพท์เป็นเวลานานเกินกว่าวันละ 10 ชั่วโมง

โดยปกติศีรษะของเรามีน้ำหนักอยู่ที่ 4-5 กิโลกรัม และเวลาที่ก้มหน้า ศีรษะจะเคลื่อนไปข้างหน้าเยอะกว่าการยืนอยู่ในท่าตรงอยู่แล้ว ดังนั้นยิ่งก้มลงไปมากเท่าไหร่ หรืออยู่ในท่าก้มนาน ๆ คอจึงต้องรับภาระมากขึ้นไปด้วย ซึ่งข้อมูลจากทางการแพทย์ระบุว่า การก้มหน้าลงทุก ๆ 15 องศา คอและหลังต้องรับน้ำหนักมากขึ้นสูงสุดถึง 27 กิโลกรัม ถ้าพูดให้เห็นภาพมากขึ้น ก็เหมือนกับว่าเราแบกข้าวสารถุงละ 5 กิโลกรัมไว้บนคอ 4-5 ถุง ในที่สุดน้ำหนักที่กดทับสะสมเรื่อย ๆ จึงส่งผลให้หมอนรองกระดูกส่วนคอนี้มีลักษณะปลิ้นหรือแตก จนไปกดเบียดเส้นประสาทที่อยู่ติดกัน

อาการ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทส่วนคอ

อาการส่วนใหญ่ที่พบ

มีอยู่ด้วยกันหลายระดับอาการ โดยระดับเริ่มต้น ผู้ที่เป็นจะมีอาการปวดเจ็บเล็กน้อย ตั้งแต่ช่วงท้ายทอย คอ บ่า ไหล่ และสะบัก เนื่องจากกล้ามเนื้อมีการอักเสบ อาการจะมีลักษณะแบบเป็น ๆ หาย ๆ ไม่ได้เฉียบพลันจนทำให้รู้สึกว่าต้องรีบไปหาหมอ หลายคนจึงไม่ใส่ใจและปล่อยให้กล้ามเนื้อที่กำลังเสียหาย รวมถึงแนวกระดูกบริเวณดังกล่าวถูกแรงกดทับสะสมไปเรื่อย ๆ จะไต่ระดับไปสู่อาการที่รุนแรงขึ้น เช่น เริ่มหันคอได้ไม่สุดเหมือนอาการนอนตกหมอน เกิดอาการชา ๆ ทั่วคอ ปวดร้าวแปลบ ๆ ไปจนถึงปลายนิ้ว หรือแขนและมือไม่มีกำลังหยิบจับสิ่งของได้เหมือนเดิม เห็นได้ชัดคือหยิบปากกาเขียนหนังสือไม่ได้ หยิบช้อนตักข้าวไม่ถนัด เป็นต้น ซึ่งอาการระดับนี้จะบ่งบอกว่า เกิดการเสื่อมสภาพของกระดูกสันหลัง หรือตัวหมอนรองกระดูก จนเกิดการเคลื่อนที่ไปกดทับไขสันหลัง หรือรากประสาทบริเวณคอ

การป้องกัน

เราคงไม่สามารถหยุดการใช้โทรศัพท์มือถือได้แน่ ๆ แต่สิ่งที่ทำได้เพื่อยืดอายุหมอนกระดูกคอของเรา คือการปรับลักษณะนิสัยการใช้งานสมาร์ตโฟน ดังนี้

  • พยายามให้คออยู่ในแนวตั้งตรงให้ได้มากที่สุด ไม่ยืนยื่นหน้า ยื่นคอ หรือห่อไหล่ขณะที่ใช้งานโทรศัพท์ เพราะถ้าเริ่มต้นคอไม่ได้อยู่ในลักษณะที่เป็นธรรมชาติ ก็จะเพิ่มโอกาสที่คุณจะก้มหน้าต่ำลงไปเรื่อย ๆ ได้อีกโดยไม่รู้ตัว ถ้าจะให้ชัวร์ลองหาหมอนรองคอดี ๆ สักใบมาสวมไว้ ก็จะควบคุมไม่ให้คอของคุณกดต่ำหรือโค้งงอได้เมื่อเผลอเล่นโทรศัพท์นาน ๆ
  • ยกโทรศัพท์ให้สูงขึ้น อาจอยู่ในแนวระดับสายตาพอดี ซึ่งนอกจากจะไม่ทำร้ายข้อต่อและกล้ามเนื้อส่วนคอแล้ว ยังทำให้สบายตามากกว่า

  • หากรู้ว่าต้องก้มมองโทรศัพท์เป็นเวลาหลายชั่วโมง โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศยุคนี้ที่บางคนต้องประชุมออนไลน์ทางโทรศัพท์ไปด้วย แนะนำว่าให้เลือกเป็นท่านั่งมากกว่าท่ายืน เพราะท่ายืนจะทำให้เราเผลอก้มหน้าลงไปเยอะกว่า และเก้าอี้ที่นั่งควรมีพนักพิง พร้อมกับจัดร่างกายให้อยู่ในท่านั่งที่ถูกต้อง เอนหลังให้บ่อย ๆ ซึ่งจะช่วยได้ทั้งลดความเสี่ยงจากการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ลดอาการปวดหลัง รวมทั้งห่างไกลจากออฟฟิศซินโดรม
  • คอยเตือนตัวเองให้พักจากการก้มดูโทรศัพท์ ควรเงยหน้าทุก ๆ 15 นาที พร้อมกับปรับเปลี่ยนอิริยาบถเป็นการลุกเดินหรือขยับตัวเล็กน้อยสัก 1 นาที แต่ทำอย่างสม่ำเสมอ หรือหากยังไม่ถึง 15 นาที แต่เริ่มรู้สึกตึง ๆ กล้ามเนื้อช่วงคอ หรือปวดร้าวตามแนวกระดูก ก็ควรพักจากการมองจอโทรศัพท์ในทันที นอกจากได้ดูแลส่วนคอแล้ว ยังช่วยให้ระบบไหลเวียนทำงานสะดวกขึ้น และลดความเครียดได้ด้วย

  • ถ้าเริ่มมีอาการระยะต้นของ Text Neck Syndrome การออกกำลังกายเป็นประจำ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์มีส่วนช่วยให้อาการทุเลาลงได้ เพราะการออกกำลังกายทำให้เลือดลมไหลเวียนดี กล้ามเนื้อเกิดความยืดหยุ่น เสริมสร้างความแข็งแรง หากไม่มีเวลาเข้าฟิตเนสหรือวิ่งในตอนเย็น ใช้เป็นการเดินเร็วสักประมาณ 20-30 นาที หรือทำท่าโยคะเบา ๆ อยู่บ้านก็ได้
  • หันมาใช้คอมพิวเตอร์แทนโทรศัพท์หากทำได้ เพราะเวลาที่เราใช้คอมพิวเตอร์ องศาในการก้มหน้าจะมีน้อยกว่าการก้มมองโทรศัพท์อย่างเห็นได้ชัด ต่อให้บางครั้งเราอาจเผลอกดศีรษะต่ำลงไปบ้าง แต่โอกาสที่จะก้มหน้าจนสุด ชนิดที่ว่าคางชิดกับคอเหมือนตอนยืนเล่นโทรศัพท์จะเกิดขึ้นได้น้อยกว่ามาก

สรุป

การก้มดูโทรศัพท์ไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร เพราะมันคือความจำเป็นไปแล้วในยุคปัจจุบัน แต่ต้องเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าควรใช้เวลากับมันอย่างพอดี เพราะถ้ายิ่งก้มมากและก้มนาน เท่ากับยิ่งเสี่ยงเป็น Text Neck Syndrome หรือ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทส่วนคอ จนลำบากต้องพาตัวเองไปหาหมอ เมื่อไม่อยากเสียการเสียงานและเสียค่ารักษาตัวเพิ่ม ปรับเปลี่ยนตัวเองตอนนี้ยังไม่สาย ใครที่อาการยังไม่หนักและอยากรีบหายไว ๆ ต้องใช้หมอนเพื่อสุขภาพช่วยรองคอทุกคืนก่อนนอนไปด้วยถึงจะดี

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และโฆษณา

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ Cookies ที่เราใช้งานได้แก่ Google Analytics และ Facebook Pixel

บันทึกการตั้งค่า