อย่างที่เราทราบกันดีว่าอาการปวดหลังนั้นมีหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นปวดจากกล้ามเนื้อ ปวดจากกระดูกหรือหมอนรองกระดูก ก็ต่างส่งผลกระทบการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก และการปวดกระเบนเหน็บก็เป็นอีกหนึ่งอาการที่ส่งผลต่อโครงสร้างรอบๆ โดยที่ยังมีอาการคล้ายคลึงกับหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทอีกด้วย ดังนั้นจึงมีความสำคัญในการแยกว่าสาเหตุที่แท้จริงนั้นมาจากไหน ซึ่งวันนี้ทาง PATEX ได้นำความรู้เกี่ยวกับการปวดกระเบนเหน็บ เพื่อให้ทุกคนตระหนักรู้และป้องกันอย่างถูกวิธี
กระเบนเหน็บ คืออะไร แล้วมันอยู่ตรงไหน
กระเบนเหน็บ หรือ sacrum เป็นส่วนหนึ่งของกระดูกสันหลัง ซึ่งเดิมมี 8 ชิ้น แต่จะเชื่อมรวมกันเป็นชิ้นเดียว และจะต่อกับกระดูกเชิงกราน (pelvic bone) โดยจะมีช่องเปิด เพื่อเป็นทางผ่านของเส้นประสาทที่ไปยังบริเวณเชิงกรานและขา ซึ่งกระดูกใต้กระเบนเหน็บเป็นกระดูกสันหลังชิ้นที่ต่อกับกระดูกสันหลังเอว โดยข้อต่อระหว่างกระดูกเอวและกระดูกกระเบนเหน็บเรียกว่า Lumbosacral joint ซึ่งเป็นจุดรองรับน้ำหนักตัวและส่งผ่านน้ำหนักตัวจากลำตัวสู่ขาทั้งสองข้าง จึงเป็นข้อที่ก่อให้เกิดการเคลื่อนและการเสื่อมได้มากที่สุดข้อหนึ่ง โดยอาการปวดหลังช่วงล่างก็อาจเกิดจากส่วนนี้ได้เช่นกัน
ปวดกระเบนเหน็บ SIJ Dysfunction คือ
โรคที่เกิดจากความผิดปกติของข้อต่อบริเวณเชิงกราน ซึ่งเป็นข้อต่อที่เชื่อมระหว่างกระดูกสันหลังส่วนกระเบนเหน็บ และกระดูกเชิงกราน ซึ่งมีหน้าที่ในการรองรับน้ำหนักตัวและรับแรงต่อจากขาและสะโพกมีอาการเจ็บปวด เนื่องจากการเคลื่อนไหวผิดปกติ การเสื่อม การยึด ติดรั้ง การเคลื่อนหรือหลวม การอักเสบของเส้นเอ็นที่ยึดข้อเชิงกราน ตลอดจนการวางตัวของแนวกระดูกผิดไปจากเดิมและเกิดการเสียดสีของกระดูกจนเจ็บปวดในขณะเคลื่อนไหว อาการปวดอาจเป็นที่ก้นย้อย ร้าวลงขา ไปถึงปลายเท้า มีอาการชาได้เหมือนกับโรคกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท
สาเหตุและความเสี่ยงต่อการปวดกระเบนเหน็บ
- เกิดจากการนั่งทำงานหรือขับรถ ในท่าเดิมๆ เป็นเวลานานๆติดต่อกันหลายชั่วโมง
- บุคคลที่ชอบนั่งไขว่ห้างเป็นประจำซ้ำๆ
- เคยได้รับอุบัติเหตุบริเวณสะโพกโดยตรง จากการล้มก้นกระแทก หรืออุบัติเหตุทางรถยนต์
- หญิงตั้งครรภ์หรือเคยผ่านการตั้งครรภ์มาแล้ว เพราะการตั้งครรภ์จะทำให้เกิดอาการปวดบริเวณสะโพกส่วนล่างและกระดูกเชิกกรานหลวมเนื่องจากมีทั้งความแข็งแรงและความอ่อนตัวของกล้ามเนื้อลดน้อยลง
- ผู้ที่ปวดสะโพกที่มีประวัติข้ออักเสบเรื้อรัง เช่น รูมาตอยด์ โรคเก๊าท์หรือโรคที่คล้ายคลึงกัน เป็นต้น
- การเล่นกีฬาที่ต้องใช้แรงเหวี่ยงตัว โดยเฉพาะการใช้บริเวณแขนและขาเป็นประจำ เนื่องจากขาดการอบอุ่นร่างกาย
- ชอบบิดตัวให้มีเสียงดังกรอบเป็นประจำ ซึ่งอาจมีผลต่อข้อต่อและเส้นเอ็น ซึ่งอาจเกิดการเสื่อมสภาพลงในอนาคต
- ผู้ที่มีภาวะกระดูกสันหลังคด ( Scoliosis) หรือกระดูกผิดรูป
- ความยาวขาทั้งสองข้างไม่เท่ากัน ส่งผลให้อุ้มเชิงการทำงานไม่สมดุลกัน
อาการปวดที่บ่งบอกว่าคุณอาจเป็น SIJ disfunction
- ปวดหลังส่วนล่างหรือตรงข้อต่อสลักเพชรและกระเบนเหน็บ
- มีอาการปวด ชาหรืออ่อนแรงตามรยางค์ขา เมื่อยง่าย เมื่อเดินระยะทางไกล เดินขึ้นบันไดหรือที่สูง
- มีอาการปวดบริเวณสะโพก ก้นหรือขาหนีบ
- อาการปวดเมื่อนอนตะแคงข้างที่มีอาการ รบกวนเวลานอน หาท่านอนที่สบายไม่ได้ ทำให้มีผลต่อการนอนไม่เต็มอิ่ม
- เมื่อนั่งนานๆมีอาการปวดก้น ต้นขา หาท่านั่งสบายได้ลำบาก ต้องนั่งตะแคงตัว
- มักจะมีอาการปวดเมื่อมีการเปลี่ยนจากท่านั่งเป็นท่ายืน
- ปวดบริเวณสะโพกและชาร้าวลงขาที่หาสาเหตุไม่เจอ
- วิ่งออกกำลังกายหรือเล่นโยคะแล้วยิ่งปวดสะโพกร้าวลงข้างขา
- ก้มลำบาก รู้สึกเหมือนหลังแข็ง หลังตึง ก้มแล้วปวดเพิ่มขึ้น
การป้องกันและรักษาอาการปวดกระเบนเหน็บ
- การรักษาด้วยการผ่าตัด : จะเลือกให้เมื่อมีอาการรุนแรงจนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้
- การรักษาแบบไม่ผ่าตัด : การทานยาแก้ปวด ยาคลายกล้ามเนื้อ การทำกายภาพบำบัดรวมถึงการออกกำลังกายสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและการขยับข้อต่อ
การรักษาแบบไม่ผ่าตัดที่กล่าวมาข้างต้นนั้นแน่นอนว่าสามารถช่วยลดอาการได้แน่นอน แต่ยังมีอีกอย่างที่สามารถช่วยลดและป้องกันอาการปวดกระเบนเหน็บได้ นั้น คือ ที่นอนยางพาราแท้ 100 % ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่สร้างขึ้นมาให้รองรับส่วนสรีระร่างกายจึงทำให้เวลานอนน้ำจะกระจายได้ดี ทำให้เวลานอนของเรานั้นไม่มีอาการปวดมากวนใจ