ในทุกวันนี้เราใช้เวลาไปกับคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือหรือหน้าจอโทรทัศน์ เพิ่มขึ้นมากกว่าในอดีตหลายเท่าตัวบวกกับการที่มีอาการปวดเมื่อยคอ บ่า ไหล่จากการใช้ชีวิตประจำวันรวมทั้งการใช้หมอนที่ไม่เหมาะสมกับสรีระคอของเรา และนี้อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ดวงตาของเรานั้นรู้สึกไม่สบาย จนทำให้ดวงตาและกล้ามเนื้อตาเกิดอาการตาเมื่อยล้าได้ในที่สุด
กล้ามเนื้อตาล้า คืออะไร
กล้ามเนื้อตาล้า คือ อาการปวดคอ บ่า ไหล่ ปวดหัวหรือปวดตา ที่เกิดขึ้นจากการทำงานในเวลาที่ต้องใช้สายตาใกล้ๆ ในงานที่เก็บความละเอียดซึ่งคนเหล่านี้จะทำงานใช้สายตาใกล้ๆ นานๆ ไม่ได้ เพราะกล้ามเนื้อตาที่ใช้มองใกล้ หรือรวมตัวเพ่งในที่ใกล้นั้นไม่แข็งแรงพอ พูดง่ายๆ คือเพ่งไม่เก่งนั่นเอง โดยคนเหล่านี้จะมีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ ปวดหัว หรืออาจจะปวดที่กระบอกตาที่มีการร้าวมาจากกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ บางครั้งก็ตาลายเวลาอ่านหนังสือ หรือทำงานที่ต้องใช้สายตาในระยะใกล้ๆ อาการนี้มักพบในเด็กหรือวัยรุ่นที่ต้องอดนอนอ่านหนังสือนานเป็นเวลานาน หรือเล่นวีดีโอเกมส์นานๆ อีกกลุ่มที่พบได้คือ กลุ่มที่อายุเริ่มเข้า 40 ปี ซึ่งจำเป็นต้องใช้แว่นดูใกล้ คือแว่นตายาว หรือแว่นคนแก่เข้าช่วยนั้นเอง
อาการตาเมื่อยล้า
อาการตาเมื่อยล้านั้นเกิดขึ้นเมื่อดวงตาของเราเริ่มอ่อนล้าจากการใช้งานอย่างหนัก เช่น ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน การอ่านหนังสือ ที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอหรือสว่างจ้าเกินไปและการขับรถ ถึงแม้ว่าอาการที่รุนแรงนั้นจะพบได้น้อยมากและในคนทั่วไปก็จะสามารถหายเองเมื่อพักสายตา แต่ก็มักเป็นอาการที่มีความน่าหงุดหงิด ซึ่งในบางครั้งอาจเกิดจากสภาวะบางอย่างที่ซ่อนอยู่
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการตาเมื่อยล้า
- จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือจอต่างๆที่มีแสงสีฟ้า เป็นเวลานาน
- อ่านหนังสือเป็นเวลานาน
- สัมผัสกับแสงจ้าหรือแสงสว่างมากๆ
- ฝืนใช้สายตาในที่มีแสงน้อยหรือแสงสว่างไม่เพียงพอ
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่
อาการของตาเมื่อยล้าได้แก่
- เมื่อยล้า ปวด คัน หรือแสบตา
- เห็นภาพไม่ชัดหรือภาพซ้อน
- ปวดศีรษะ
- น้ำตาคลอ
- ตาแห้ง
- ปวดเมื่อยคอ บ่า ไหล่
- ดวงตาไวต่อแสงเพิ่มมากขึ้น
ตาเมื่อยล้าจากอาการปวดคอ
อย่างที่เราทราบกันดีว่าอาการปวดคอ บ่า ไหล่ นั้นมาจากปัจจัยที่หลากหลายรวมทั้งความเครียดที่เพิ่มขึ้นมากมายจากการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น เครียดกับการทำงานหรือปัญหาครอบครัว จากการหลับนอน หรือการทำงานในท่าทางอิริยาบถที่ไม่ถูกต้อง จนทำให้กล้ามเนื้อมีอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณหลังคอและท้ายทอย จนทำให้รู้สึกปวดบริเวณหน้าผาก ขมับ ท้ายทอย หรือรอบกระบอกตา แทนที่จะปวดในบริเวณที่กล้ามเนื้อหดเกร็งโดยเฉพาะหากปล่อยไว้ก็จะมีอาการเพิ่มขึ้นและกล้ามเนื้อตาล้าเพิ่มมากขึ้น
การป้องกัน ดูแลไม่ให้ตาเมื่อยล้า
- เมื่อใช้งานสายตาประมาณ 20-30 นาที ควรหยุดพักสายตาเพื่อไม่ให้เกิดการฝืนใช้สายตาหนักเกินไป
- ปรับความสว่างให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่สว่างจ้าจนเกินไป และไม่มืดจนต้องเพ่ง
- การเลือกหมอนที่เหมาะสมกับสรีระคอของตัวเอง ป้องกันการปวดคอ
- ถ้าตาคุณแห้งมาก ควรใช้น้ำตาเทียม และดื่มน้ำให้เพียงพอ
- การออกกำลังกายกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ให้แข็งแรง
- ประคบน้ำอุ่น คอ บ่า ไหล่ รวมถึงดวงตา เป็นเวลา 10 -15 นาที
- การนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ รวมถึงดวงตา
จะเห็นได้ว่าอาการปวดตาหรือเมื่อยล้าตานั้นไม่ได้มาจากการที่เราใช้ดวงตาในการทำงานเพียงเดียวแต่รวมไปถึงการทำอิริยาบถที่ไม่ถูกต้อง และอาการปวดคอที่เกิดจากการใช้หมอนที่ไม่เหมาะสมกับตัวเอง วันนี้เราเลยมีไอเทมพิเศษที่เหมาะกับสรีระของคอทุกรูปแบบ อย่างหมอนยางพารา PATEX มานำเสนอซึ่งมีนวัตกรรมที่สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับสรีระคอทุกรูปแบบแถมยังนุ่นแน่นสบายระบายอาการได้ดีอีกทั้งยังป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดคอ บ่า ไหล่ ที่นำไปสู่อาการตาเมื่อยล้าได้อีกด้วย