อาการปวดหลังเพราะที่นอนสังเกตอย่างไร

อาการปวดหลังเพราะที่นอนสังเกตอย่างไร

อาการปวดหลังเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่จำกัดเพศหรือช่วงอายุ อาจเกิดจากการยกของหนัก การออกกำลังกายผิดวิธี การนั่งทำงานผิดท่าเป็นเวลานาน หรือแม้แต่การใส่ส้นสูงก็ทำให้เกิดอาการปวดหลังได้ แต่สาเหตุนึงที่ไม่ควรมองข้ามเลย คือการปวดหลังจากการนอน ซึ่งที่นอนหรือฟูกเป็นสิ่งที่เราใช้รองรับกระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อส่วนต่างๆของเราในขณะที่นอนหลับทั้งคืนและทุกคืน จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการปวดหลังด้วยเช่นกัน
ซื้อที่นอนหลังใหม่มาแล้ว แต่ก็ยังปวดหลังจนนอนไม่หลับอีกอยู่ดี! คุณกำลังกลุ้มใจกับปัญหาที่แก้ไม่หายนี้อยู่หรือเปล่า? การปวดหลังเพราะที่นอนเป็นสาเหตุที่เกิดขึ้นได้ และการสังเกตอาการปวดหลังเพราะที่นอนนั้นสามารถช่วยให้เรารู้ว่าเราต้องการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงการนอนหรือไม่ วันนี้ PATEX จะมาตอบข้อสงสัยว่าเพราะอะไร เราถึงมีอาการปวดหลังหลังจากการตื่นนอน พร้อมทั้งบอกวิธีรับมือและเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอาการนี้ขึ้นกับเรา

อาการปวดหลังเพราะที่นอนสังเกตได้ดังนี้

1. ปวดหลังตอนเช้า

หากมีอาการปวดหลังเมื่อตื่นนอนและหลังจากขยับตัวไปเรื่อย ๆ อาจแสดงว่าที่นอนที่นอนอยู่ไม่เหมาะสมกับร่างกาย และไม่มีการสนับสนุนส่วนลำตัวอย่างเพียงพอ

2. ปวดหลังในช่วงกลางคืน

หากมีอาการปวดหลังเพราะที่นอนในช่วงกลางคืนและอ่อนเพลียตอนตื่นนอนในเช้าวัน อาจเกิดจากเตียงที่นอนไม่มีความสะดวกสบายหรือไม่มีการสนับสนุนส่วนลำตัวที่เพียงพอ

3. ปวดหลังเฉพาะตำแหน่งที่นอนตลอดเวลา

หากมีอาการปวดหลังเฉพาะตำแหน่งที่นอนตลอดเวลา อาจแสดงว่าตำแหน่งการนอนไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสมกับร่างกาย

4. ปวดหลังเกิดขึ้นหลังจากนอนในเตียงที่ไม่สะดวกสบาย

หากมีอาการปวดหลังหลังจากนอนในเตียงที่ไม่สะดวกสบาย เช่น เตียงที่นอนไม่สมบูรณ์ หรือไม่เหมาะสมกับร่างกาย อาจต้องพิจารณาเปลี่ยนเตียงที่นอน

5. ปวดหลังเกิดขึ้นหลังจากเปลี่ยนที่นอนหรือที่นอนตะแคง

หากมีอาการปวดหลังเกิดขึ้นหลังจากเปลี่ยนที่นอนหรือที่นอนตะแคง อาจแสดงว่าเตียงที่นอนไม่เหมาะสมกับร่างกายหรือตำแหน่งการนอนไม่ถูกต้อง

6. ปวดหลังเกิดขึ้นหลังจากนอนบนเตียงที่เก่าเกินไป

เตียงที่นอนที่เก่าและใช้มานานอาจไม่สนับสนุนร่างกายเพียงพอ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของอาการปวดหลัง

7. ปวดหลังเกิดขึ้นหลังจากนอนบนเตียงที่มีเสื่อหรือเครื่องหมายของการเสื่อมสภาพ

หากเตียงที่นอนมีเสื่อหรือเครื่องหมายของการเสื่อมสภาพ อาจเป็นสาเหตุของการกดกระดูกสันหลังและเกิดอาการปวดหลังได้

การมีระยะเวลาการนอนที่เพียงพอและสิ่งที่เรียกว่า “ท่านอน” มีความสำคัญอย่างมากในการป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดหลัง นอนหลับในท่าที่ไม่ถูกต้องสามารถทำให้เกิดการกดทับกับเส้นประสาทหรือกล้ามเนื้อในแผ่นเป็นอันตรายได้

วิธีการรับมือและป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดหลังจากการนอน

1. ตรวจสอบที่นอนของคุณ

ตรวจสอบเตียงของคุณว่าเหมาะสมกับรูปร่างของคุณหรือไม่ ถ้าไม่เหมาะสมควรที่จะคิดหาเตียงที่เหมาะสมกับรูปร่างของคุณ เช่น การเลือกเตียงที่มีความยาวพอดีกับความสูงของคุณ และมีความแข็งแรงพอเหมาะสมสำหรับการสนับสนุนน้ำหนักของร่างกาย

2. การทำกิจกรรมก่อนนอน

ควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนนอนโดยการทำกิจกรรมที่บริสุทธิ์ ตัวอย่างเช่นการออกกำลังกายเบาๆ เช่นเดินเร็วหรือโยคะ หรือทำการยืดกล้ามเนื้อต่างๆ ทำให้ร่างกายคลายเครียด และเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการนอนหลับ

3. ปรับท่านอน

การนอนในท่าที่ไม่ถูกต้องสามารถทำให้เกิดอาการปวดหลังได้ ท่าที่เหมาะสมคือท่านอนตะแคงกับหมอนรองคอให้สูง และตัวเราอยู่บนหมอน

4. เลือกหมอนที่เหมาะสม

การเลือกหมอนที่เหมาะสมสำหรับการนอนหลับมีความสำคัญอย่างมาก หมอนที่เหมาะสมจะช่วยสนับสนุนรูปร่างของคุณและลดแรงกดทับในบริเวณคอและหลัง คุณสามารถเลือกหมอนที่เหมาะสมตามรูปร่างของคุณได้ แต่โดยทั่วไปหมอนที่เป็นแบบอ่อนนุ่มและยืดหยุ่นจะเหมาะสมกับส่วนใหญ่ของคน

5. ลองใช้เครื่องนอนที่มีคุณภาพดี

เครื่องนอนที่มีคุณภาพดีสามารถช่วยลดแรงกดทับในบริเวณหลังได้ การเลือกเครื่องนอนที่มีคุณภาพดีอาจจะมีราคาสูงกว่าเครื่องนอนทั่วไป แต่มันเป็นการลงทุนที่ดีในสุขภาพของคุณ

6. การใช้เทคนิคการนอนที่ถูกต้อง

การนอนในท่าที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยลดการกดทับและอาการปวดหลังได้ เช่นการนอนตะแคงด้านหนึ่งกับหมอนรองคอให้สูง หรือการใช้หมอนรองเข่าเพื่อส่งเสริมการรักษารูปร่างร่างกายในท่าที่ถูกต้อง

7. การออกกำลังกาย

การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพของร่างกายและช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการปวดหลัง แต่ต้องเลือกท่าออกกำลังกายที่ไม่ได้ทำให้เกิดการแข่งขันในกลุ่มคนหลายคนเพื่อเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายอย่างไม่เหมาะสม อาจจะทำให้เกิดการบิดเบือนร่างกายหรือการเสียดสีสรรพ์ในการใช้กล้ามเนื้อที่ไม่ถูกต้อง จึงควรเลือกท่าออกกำลังกายที่ไม่ทำให้เกิดการบิดเบือนร่างกายหรือเสียดสี

8. การดูแลระยะเวลาการนอน

การดูแลระยะเวลาการนอนเป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการปวดหลัง ควรเตรียมตัวก่อนนอนโดยการออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีก่อนนอน และปรับระดับแสงในห้องเพื่อให้เหมาะสมกับการนอน

9. การเลือกเตียงนอนที่เหมาะสม

การเลือกเตียงนอนที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการปวดหลัง ควรเลือกเตียงนอนที่มีความสูงและความกว้างพอเหมาะสมสำหรับตัวคุณและคู่หูของคุณ นอกจากนี้ยังต้องเลือกเตียงนอนที่มีความคงทนและสามารถสนับสนุนน้ำหนักของคุณได้อย่างเหมาะสม

10. การปรับเปลี่ยนท่านอน

การปรับเปลี่ยนท่านอนอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการปวดหลัง

อาการปวดหลังจากการนอนนั้นเป็นสิ่งที่เราไม่ควรจะมองข้าม ควรหลีกเลี่ยงและป้องกันไว้ไม่ให้เกิดขึ้นจะดีที่สุด เพราะหากมีอาการปวดหลังแล้ว นอกจากความทุกข์ทรมาน อาจต้องเสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาอีกมาก โดยคำแนะนำที่กล่าวมานั้นจะทำให้อาการปวดหลังในลักษณะเบื้องต้นหายไปเองโดยธรรมชาติภายใน 1 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เปลี่ยนลักษณะท่าทางการใช้ชีวิตประจำวัน แต่หากยังคงนอนที่นอนที่ไม่ได้คุณภาพต่อไป ก็จะทำให้เกิดอาการปวดที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น จนอาจลามไปถึงการอักเสบที่เรื้อรังได้ ถ้าภายใน 1 เดือนยังคงมีอาการปวดมากอยู่ ทานยาแก้ปวดแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาในขั้นตอนต่อไปค่ะ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และโฆษณา

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ Cookies ที่เราใช้งานได้แก่ Google Analytics และ Facebook Pixel

บันทึกการตั้งค่า