เชื่อว่าหลายคนคงเคยมีประสบการณ์ปวดหลังที่ไม่ดีเอาซะเลย ทำเอาวันนั้นทั้งวันต่อให้มีอะไรทำสนุกๆ อยู่ตรงหน้า ความสนุกก็จะเหลือศูนย์ทันที บางคนอาจปวดหลังจากการนั่งทำงานนานจนเกินไป บางคนอาจตื่นขึ้นมาแล้วปวดหลัง หรือนอนหลับไม่สนิทเพราะอาการปวดหลังเรื้อรัง ซึ่งอาการปวดหลังเหล่านี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การ เลือกที่นอน ที่ไม่เหมาะสมกับสรีระร่างกาย ซึ่งถ้าหากสาเหตุมาจาก ที่นอน จริง ก็ควรรีบแก้ไข โดยการเปลี่ยนที่นอน ในทันที โดยเฉลี่ยแล้วคนเราใช้ชีวิตบน ที่นอน อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง หรือคิดเป็นเวลา 1 ใน 3 ของชีวิตประจำวันเลยทีเดียว ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องพิถีพิถันในการ เลือกที่นอน ที่รองรับสรีระร่างกายของเราได้อย่างเหมาะสม โดย ที่นอน ที่ดี ต้องช่วยปรับให้ทุกส่วนของร่างกายอยู่ในตำแหน่งที่สมดุล โอบรับทุกส่วนของสรีระร่างกาย ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อและอวัยวะทุกส่วนได้ผ่อนคลาย ส่งผลให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ไม่มีอาการปวดหลังมากวนใจ
การเลือกที่นอนไม่ให้ทำลายสุขภาพ
1. การเลือกขนาดที่นอนตามขนาดลำตัวของผู้นอน
- Single Size ที่นอนขนาด 3.5 ฟุต (กว้าง 107 ซม. ยาว 198 ซม.) เหมาะสำหรับคนที่นอนคนเดียว
- Queen Size ที่นอนขนาด 5 ฟุต (กว้าง 150 ซม. ยาว 198 ซม.) เหมาะสำหรับการนอน 1-2 คน หากนอน 2 คนขึ้นไป จะรู้สึกอัดอึดได้
- King Size ที่นอนขนาด 6 ฟุต (กว้าง 180 ซม. ยาว 198 ซม.) สามารถนอนได้ 2- 3 คน เรียกว่าเป็นที่นอนที่เหมาะสำหรับครอบครัว
2. เลือกที่นอนที่เหมาะกับขนาดของห้องนอน
การเลือกขนาดของที่นอนควรเลือกให้สัมพันธ์กับขนาดของห้อง หากอาศัยอยู่ในคอนโด การเลือกที่นอนขนาด King Size อาจเป็นการใช้พื้นที่มากเกินไป จนเบียดเฟอร์นิเจอร์อย่างอื่น ทำให้ห้องดูแคบ และดูไม่เหมาะสมกับขนาดของห้อง หากอาศัยอยู่คนเดียวหรือมีห้องนอนหลักเพียงห้องเดียว อาจเลือกใช้เป็นที่นอนขนาด Single Size แต่หากอยู่กันเป็นครอบครัว ในบ้านหลังใหญ่ การเลือกที่นอน King Size ก็ถือเป็นอะไรที่เหมาะสม
3. เลือกให้เหมาะสมกับวัย
การเลือกที่นอนให้เหมาะสมกับวัยถือเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ผู้สูงอายุ ควรเลือกฟูกที่มีความแข็งและหนา เลือกความสูงที่พอดี ไม่สูงมากจนเกินไป ความกว้างควรมีมากพอที่จะให้ผู้สูงอายุพลิกตัวไปมาขณะนอนได้ โดยเลือกขนาด Queen Size ขึ้นไป เด็กอ่อน ควรเลือกที่นอนสำหรับเด็กอ่อนโดยเฉพาะ ต้องมีที่กั้นเพื่อป้องกันเด็กตก และที่กั้นไม่ควรมีช่องว่าง เนื่องจากมีโอกาสที่ศีรษะของเด็กจะเข้าไปติดในช่องว่างนั้นได้
4. เลือกจากน้ำหนัก
การเลือกที่นอนจากน้ำหนักผู้ใช้งาน โดย การเลือกที่นอน จากน้ำหนักสามารถช่วยลดอาการปวดหลังได้ คนที่มีน้ำหนักมากจะเหมาะกับที่นอนที่มีความหนาแน่นสูง เพื่อรองรับน้ำหนัก ป้องกันการยุบตัวของที่นอน ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการปวดหลัง
5. เลือกจากการใช้งาน
การเลือกที่นอนจากการใช้งานที่ว่านี้อ้างอิงจากจำนวนผู้นอน เช่น หากครอบครัวไหนที่นอนด้วยกันหลายคน ไม่ควรใช้ที่นอนแบบสปริง เพื่อลดการเกิดเสียงและแรงสั่นสะเทือนเวลาพลิกตัว ที่อาจรบกวนการนอนหลับของคนข้างๆ
ซึ่งที่นอนมีหลากหลายประเภท ให้เราได้เลือกใช้จากการใช้งาน ดังนี้
- ที่นอนสปริง
เป็นประเภทที่นอนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะมีความยืดหยุ่น คืนตัวได้ดี ที่สำคัญการยุบตัวของที่นอนสปริง สามารถเข้ากับสรีระของร่างกายได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะนอนท่าไหนก็ไม่ทำให้เกิดการกดทับ และยังช่วยลดอาการปวดเมื่อยต่างๆ ได้อีกด้วย ข้อเสียคือ เมื่อขยับตัวที่นอนจะมีเสียงดัง อาจทำให้รบกวนคนที่นอนข้างๆ ได้ - ที่นอนฟองน้ำ
เป็น ที่นอน ที่มีความนุ่มมาก แต่ไม่มีความยืดหยุ่น คืนตัวช้า ไม่เหมาะกับคนที่มีอาการปวดหลัง - ที่นอนยางพารา
ที่นอนยางพาราต่างจากที่นอนทั่วไปอย่างสิ้นเชิง ที่นอนยางพาราทำมาจากน้ำยางพารา ที่มีคุณสมบัติยืดหยุ่นสูง ไม่ทำให้ยุบตัวง่าย ทนต่อแรงกดทับ นอกจากนี้ที่นอนยางพารายังมีลักษณะเป็นรูเล็กๆ จำนวนมากทั่วทั้งที่นอน จึงทำให้ระบายความร้อนได้ดี ไม่สะสมความชื้น และ เป็น ที่นอน ที่เหมาะกับสายรักสุขภาพมาก เพราะด้วยประโยชน์ที่ส่งผลดีต่อสุขภาพหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันไรฝุ่น การรองรับร่างกายตามหลักสรีรศาสตร์ หรือการลดปัญหาปวดเมื่อย หรือแผลกดทับ ลดอาการนอนกรน เรียกว่าตอบโจทย์ทุกความต้องการเลยทีเดียว
โดยที่นอนยางพารา Patex ถือเป็นไอเท็มที่จะช่วยให้อาการปวดหลังดีขึ้น เพราะเป็นที่นอนยางพาราแท้ 100% ผลิตจากน้ำยางพาราเกรดพรีเมียมที่มีคุณภาพสูง มีความยืดหยุ่นสูง ความคงทน ทนทานสูงมาก ไม่ยุบคืนตัวไวและไร้สารเคมี ทาง Patex วิจัยและพัฒนาเพื่อตอบโจทย์สรีระของคนไทยมานานกว่า 50 ปี ที่นอนยางพาราแบรนด์ Patex มีระบบรองรับ 7 Body Zone Support มีนวัตกรรม Nano-Zinc Oxide Latex , Latex-Pin hole and Latex Open cell Technology ช่วยระบายอากาศ ลดความร้อน และไม่อับชื้น นอนหลับสบาย ตลอดทั้งคืน มีอายุการใช้งานที่ทนทานและยาวนาน รับประกันถึง 15 ปี รับรองว่าหากใครได้ใช้อาการปวดหลังก็จะค่อยๆ ดีขึ้น การนอนมีคุณภาพยิ่งขึ้น และเมื่อการนอนมีคุณภาพ สุขภาพที่ดีก็จะตามมา