โรคนอนไม่หลับถือว่าเป็นโรคที่มีความนิยมของคนวัยทำงาน รวมไปถึงนักเรียนวัยศึกษา เนื่องจากอาจจะมีความตึงเครียดในการทำงานและการเล่าเรียน อาการนอนไม่หลับนั้นส่วนใหญ่เกิดจากระยะชั่วคราวและระยะเรื้อรัง ซึ่งหากคุณเป็นคนที่นอนไม่หลับเลยติดต่อกันมากกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือต่อเนื่องถึง 3 เดือนอาจจะส่งผลเสียต่อการดำรงชีวิตในปัจจุบันได้ เพราะการดำเนินชีวิตของของเรา จำเป็นจะต้องมีการพักผ่อนเพื่อที่จะซ่อมแซมร่างกายในช่วงเวลาที่เรากำลังได้นอนหลับ
แน่นอนว่าคนที่เป็นโรคนี้ส่วนใหญ่ จะนิยมใช้การรักษาด้วยการกินยานอนหลับ แต่ท่านรู้หรือไม่ ว่าไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด เพราะว่าจะมีผลเสียต่อไปในอนาคตอย่างแน่นอน เช่น มีอาการคลื่นไส้และอาเจียนในบางราย รวมไปถึงตื่นมาไม่ค่อยสดชื่น รู้สึกวิงเวียนศีรษะหลังตื่นนอน และจะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของสมองลดลง เมื่ออยู่ภายใต้ฤทธิ์ของยานอนหลับ เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เมื่อทำกิจกรรมอื่นๆ ที่จะทำให้ท่านเผลอหลับได้ ที่สำคัญในระยะยาวนั้นอาจจะทำให้ร่างกายของคุณจะดื้อยา ติดยา รวมไปถึงการเสี่ยงต่อการเป็นอัลไซเมอร์ เสื่อมสมรรถภาพทางเพศอีกด้วย
โดยการนอนหลับให้มีคุณภาพและทำให้ทุกท่านหลับได้ง่ายโดยที่ไม่ต้องพึ่งยานั้น จะส่งผลดีต่อร่างกายของท่านอย่างแน่นอน สิ่งที่สำคัญที่ไม่ควรใช้ยานอนหลับคือ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อจะทำให้ทุกท่านนอนหลับได้อย่างมีคุณภาพ อาจจะเป็นการรักษาที่ไม่ตรงตามจุดหนัก แต่สามารถช่วยป้องกันสารตกค้างจากการใช้ยานอนหลับได้อีกด้วย
การเป็นโรคนอนไม่หลับนั้น ส่วนใหญ่จะมีมากมายหลากหลายปัจจัย ซึ่งแน่นอนว่าหลายท่านอาจจะเกิดปัญหาในการดำรงชีวิตที่แตกต่างกันไป การเป็นโรคนอนไม่หลับ จึงนับว่าเป็นโรคที่เกี่ยวกับ ทั้งร่างกายและจิตใจ หากคุณต้องการจะป้องกันตนเองจากการเป็นโรคที่นอนไม่หลับนั้นสามารถเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้เลย เช่น
- การรักษาสมดุลของฮอร์โมน DHAEA ที่ร่างกายจะสร้างขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ เมื่อท่านนั้นอยู่ในสมาชิ เช่น การสวดมนต์ การอ่านหนังสือ หรือจะเป็นการฟังเพลงเบาๆ เพื่อสร้างความผ่อนคลายก็จะทำให้ฮอร์โมนเหล่านี้จะส่งผลให้ร่างกายของท่านนอนหลับได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
- ควรนอนในห้องอุณหภูมิห้องที่ไม่เกิน 27 องศา
- บางคนอาจจะใช้กลิ่นที่จะช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย เพื่อจะทำให้การหลับนอนของท่านมีความสบายมากยิ่งขึ้น
- สิ่งสำคัญที่สุดคือการลดโรคนอนไม่หลับนั้น คือทุกท่านไม่ควรจะปล่อยให้ตนเองอยู่ในสภาวะเครียดช่วงนี้ก่อนเข้านอน เพราะจะทำให้ร่างกายนอนไม่หลับนั่นเอง
- การเลือกอุปกรณ์ที่นอนให้มีความสบาย ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้ทุกท่านนอนหลับได้ลึกและหลับได้นานมากยิ่งขึ้น
- ไม่ควรทานชาหรือกาแฟ หากคุณเป็นบุคคลที่นอนยาก ลดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอย่างน้อย 6 ชั่วโมง ก่อนเข้านอน
- การออกกำลังกายก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ทุกท่านนอนหลับสบายมากยิ่งขึ้น ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 3 ชั่วโมง ก่อนเข้านอน
สรุป
การนอนไม่หลับในปัจจุบันนั้น อาจจะทำให้ทุกท่านที่อยู่ในสภาวะแรกอาจจะรู้สึกว่าไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากนัก ไม่จำเป็นจะต้องไปพบแพทย์ หรือทำในสิ่งที่เราได้กล่าวมาข้างต้นได้ แต่หากคุณอยู่ในช่วงที่เป็นการนอนไม่หลับเรื้อรัง ก็สามารถเกิดการปวดศีรษะ หงุดหงิดง่าย ทำให้การทำงานไม่มีประสิทธิภาพ และไม่มีสมาธิ จะส่งผลกระทบทั้งต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจของผู้ป่วยได้ในอนาคต ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องช่วยลดโอกาสที่จะเป็นโรคนอนไม่หลับให้มากที่สุด เพื่อทุกท่านนั้นใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น