อาการนอนกรนเกิดจาก การที่ช่องทางเดินหายใจส่วนต้นของเรา เกิดการตีบแคบลง ทำให้ลมหายใจที่ผ่านเข้ามาผ่านช่องที่แคบนี้ เกิดการกระพือ และกลายเป็นเสียงกรนขึ้น โดยปกติตามธรรมชาติ คนเราเมื่อนอนหลับ กล้ามเนื้อต่างๆ จะมีการหย่อนตัวหรือคลายตัวลง ซึ่งอวัยวะในช่องทางเดินหายใจของเรา เช่น เพดานอ่อน หรือโคนลิ้น ก็จะหย่อนลงมาทำให้ทางเดินหายใจตีบแคบลงได้ โดยเฉพาะเวลาที่เรานอนหงาย
เมื่อช่องทางเดินหายใจมันแคบลง เวลาเราหายใจเอาอากาศเข้ามา ลมที่ผ่านช่องที่แคบนี้ ก็จะทำให้กล้ามเนื้อดังกล่าวเกิดการกระพือ (คล้ายๆ กับเวลาที่ลมเป่าลมผ่านหลอดเล็กๆ นั่นแหละค่ะ) เมื่อกล้ามเนื้อเกิดการกระพือ หรือสั่นสะเทือน ก็จะเกิดเป็นเสียงกรนขึ้น และนี่ก็คือสาเหตุของการนอนกรนนั่นเอง
เสียงกรนที่เกิดขึ้นนี้ อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของอวัยวะที่เกิดการสั่น เช่น ถ้าเกิดการสั่นที่เพดานอ่อน หรือลิ้นไก่ ก็จะทำให้เกิดเสียงกรนในลำคอ หรือถ้าเกิดการสั่นที่เนื้อเยื่ออ่อนด้านหลังโพรงจมูก ก็จะทำให้เกิดเสียงกรนแบบขึ้นจมูก เป็นต้น
การนอนกรนอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ
1. ทางเดินหายใจอุดกั้น
เมื่อทางเดินของอากาศในจมูกหรือคอถูกปิดกั้นบางส่วน จะทำให้เกิดการสั่นสะเทือนในเนื้อเยื่อรอบข้าง ซึ่งนำไปสู่การกรน
2. ท่านอน
การนอนหงายอาจทำให้ลิ้นกลับเข้าไปในลำคอ ทำให้ทางเดินหายใจตีบแคบลงและทำให้เกิดเสียงกรนได้
3. อายุ
เมื่อคนเราอายุมากขึ้น กล้ามเนื้อในลำคอและลิ้นจะอ่อนแรงลง ซึ่งนำไปสู่การนอนกรน
4. แอลกอฮอล์และยาระงับประสาท
การดื่มแอลกอฮอล์และยาระงับประสาทก่อนนอนสามารถผ่อนคลายกล้ามเนื้อในลำคอและลิ้น ซึ่งนำไปสู่การนอนกรน
5. โรคอ้วน
น้ำหนักที่มากเกินไปบริเวณคอและลำคออาจทำให้ทางเดินหายใจแคบลง ส่งผลให้เกิดการกรน
6. ภูมิแพ้และปัญหาไซนัส
ภูมิแพ้และปัญหาไซนัสอาจทำให้เกิดการคัดจมูกและการอุดตันของจมูก ซึ่งนำไปสู่การนอนกรน
อาการนอนกรนเกิดจากสาเหตุใดในช่วงวัยต่าง ๆ
การนอนกรนนั้นสามารถที่จะเกิดขึ้นได้กับคนในทุกช่วงวัย โดยในแต่ละวัยนั้นการนอนกรนเกิดจากสาเหตุมากมาย และมีผลกระทบที่แตกต่างกันซึ่งในบางผลเสียอาจอันตรายถึงชีวิตได้
1. นอนกรนในวัยเด็ก
ในเด็กสาเหตุของการนอนกรนเกิดจากความผิดปกติของทางเดินหายใจที่เป็นผลมาจากขนาดต่อมทอนซิลและต่อมอะดีนอยด์ที่โตขึ้นมาเบียดทางเดินหายใจ และนอกจากนี้การนอนกรนเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ที่สำคัญ เช่น โรคภูมิแพ้โพรงจมูก เด็กที่คลอดก่อนกำหนด ภาวะอ้วน เด็กที่มีรูปหน้าผิดปกติ เช่น คางร่น หรือ โครงหน้าแคบ มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับกล้ามเนื้ออ่อนแรง และโรคทางพันธุกรรม เป็นต้น
อาการนอนกรนในเด็กที่ไม่ได้มีความรุนแรงมากนัก จะเป็นอาการที่นาน ๆ ครั้งจะเกิดขึ้น หรือเป็นเฉพาะเวลาที่รู้สึกคัดจมูก เป็นหวัด แต่หากว่ามีอาการเป็นประจำ (มากกว่า 3 คืนต่อสัปดาห์) จะส่งผลให้เด็กมีภาวะพร่องออกซิเจน นำไปสู่การเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น ซึ่งรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
2. นอนกรนในผู้ใหญ่
ในวัยของผู้ใหญ่สาเหตุของการนอนกรนเกิดจากกล้ามเนื้อคอจะผ่อนคลายและหย่อนตัว ทำให้ทางเดินหายใจแคบลง อากาศที่เคลื่อนผ่านทางเดินหายใจที่แคบลง จะทำให้เกิดการสั่นของเนื้อเยื่อคอ เช่น ทอนซิล เพดานอ่อน ลิ้นไก่ เป็นต้น และการสั่นดังกล่าวก็ส่งผลให้เกิดเสียงกรนในที่สุด รวมไปถึงพฤติกรรมและความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับร่างกายโดยจะแตกต่างออกไปในแต่ละบุคคล เช่น
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น
- มีสรีระที่ผิดปกติ
- น้ำหนักตัวที่มากเกินกว่ามาตรฐาน
- พฤติกรรมการนอน เช่น นอนหงาย นอนหนุนหมอนสูง
- การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
- ความเครียดและอาการเหนื่อยสะสม
วิธีป้องกันการนอนกรน
- รักษาน้ำหนักให้แข็งแรงและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาระงับประสาทก่อนนอน
- นอนตะแคงแทนการนอนหงาย
- รักษาโรคประจำตัว เช่น ภูมิแพ้หรือหยุดหายใจขณะหลับ
- ยกศีรษะขึ้นขณะนอนด้วยหมอนหรือเตียงปรับระดับ
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่หรือสัมผัสกับควันบุหรี่
หมอนจึงนับเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้นอนได้ถูกสุขลักษณะ หมอนที่ดีจะต้องพยุงให้ศีรษะและคออยู่ในท่าที่สบาย ทำให้หายใจโล่ง คนเกาหลีจึงให้ความสำคัญกับการเลือกหมอนที่ใช้นอน รวมถึงแพทย์จะแนะนำอย่างแรกให้คนไข้ลองเปลี่ยนหมอน
ดังนั้นเราขอแนะนำ หมอนยางพาราของ PATEX หมอนที่ออกแบบมาให้รับกับโครงสร้างและสรีระของชาวเอเชีย ที่ไม่ว่าจะนอนหลับในท่าไหนก็ช่วยให้ความรู้สึกผ่อนคลายหลับได้ง่าย และหลับได้สนิท ซึ่งก็จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ตื่นนอนมาด้วยความรู้สึกสดชื่นสดใส ตลอดทั้งวันนั่นเอง