สัญญานเตือน ว่าถึงเวลาเปลี่ยนที่นอนของคุณ

สัญญาณถึงเวลาเปลี่ยนที่นอน

ที่นอน สิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ของการใช้ชีวิต ที่ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากแต่ละวันคนเราใช้เวลาบนเตียงนอนมากถึง 6-8 ชั่วโมง หรืออาจมากกว่านั้น หลายคนคงรู้ดีว่าการพักผ่อนที่ดีที่สุดคือการนอนหลับ ฉะนั้นหากใครประสบกับปัญหาที่มีสาเหตุมาจาก ที่นอน ที่ไม่ได้คุณภาพ บางคนอาจนอนแล้วรู้สึกปวดหลัง นอนหลับไม่สนิท นอนไม่หลับ หรือตื่นตอนดึกอยู่บ่อยๆ ทำให้การนอนของเราไม่ได้คุณภาพ ส่งผลต่อสุขภาพจิตและสุขภาพร่างกาย หากใครเจอกับปัญหาเหล่านี้ต้องรีบพิจารณาถึงการเปลี่ยนที่นอนโดยด่วน ก่อนที่จะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ที่อาจแก้ไม่ได้ตามมาทีหลัง ซึ่งสัญญานเตือนที่บ่งบอกว่าถึงเวลาเปลี่ยนที่นอนใหม่ มีดังนี้

สึกปวดหัวไม่สบายตัว

ขณะนอนหลับและพลิกไปพลิกมาบนเตียง แต่รู้สึกไม่ค่อยสบายตัว หาท่านอนหรือมุมที่ทำให้หลับสบายไม่เจอสักที ตื่นขึ้นมาแล้วปวดหัว นั่นเป็นสัญญานที่บ่งบอกว่าควรเปลี่ยนที่นอนได้แล้ว เพราะที่นอนที่ดีควรทำให้เรารู้สึกสบายตัวในทุกอิริยาบถ

ที่นอนเสื่อมสภาพ

ปัจจัยของข้อนี้คือ การที่ตัวสปริงหรือโฟมของเตียงเริ่มเก่าจนเสื่อมประสิทธิภาพ อาจสังเกตเห็นว่าฟูกนอนยุบตัวลงไปเยอะหากเทียบกับตอนที่ซื้อมาใหม่ๆ เจอแอ่งหรือหลุมตรงกลางหรือบริเวณมุม ผิวของเตียงนอนเป็นตะปุ่มตะป่ำ หรือมีก้อนแข็งอยู่ด้านใต้ เตียงนอนไม่มีความสมมาตร บริเวณหนึ่งสูง อีกบริเวณต่ำ หรือจุดหนึ่งแข็ง แต่อีกจุดกลับอ่อนนุ่ม โดยวีแก้เบื้องต้นคือควรกลับหรือพลิกเตียงนอนอีกฝั่งทุกๆ 6 เดือน เพื่อคงประสิทธิภาพของเตียงนอนไว้

มีกลิ่นไม่พึงประสงค์

ที่นอนที่ดี ไม่ควรมีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ฉะนั้นหากรู้สึกว่าเริ่มมีกลิ่นแปลกๆ นั่นคือสัญญานเตือนว่าควรที่จะทำความสะอาดหรือนำที่นอนไปตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อ แต่หากยังมีกลิ่นอยู่ ก็ควรเปลี่ยนทันที

ใช้มานานกว่า 7 ปี

จากการวิจัยพบว่าอายุการใช้งานของ ที่นอน จะอยู่ที่ประมาณ 8 ปี แต่อาจมีปัจจัยแตกต่างกันไปตามผู้ผลิต ประเภทที่นอน และผู้ใช้งาน เช่น หากคุณเป็นคนที่รูปร่างใหญ่ ที่นอนของคุณอาจมีแนวโน้มที่จะเสื่อมสภาพเร็วกว่าอายุการใช้งานตามที่อ้างอิงจากวิจัย และเชื่อว่าหลายคนแทบไม่เคยเปลี่ยนที่นอนเลย ซึ่งหากที่นอนมีอายุมากกว่า 7 ปี ก็ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแล้ว เพราะที่นอนเก่าเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคเป็นอย่างดีเลย

เกิดอาการภูมิแพ้ หรือภูมิแพ้กำเริบ

หากตื่นมาแล้วมีอาการไอ จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล คันตาแทบทุกเช้า นั่นอาจเป็นเพราะที่นอนไม่สะอาด มีไรฝุ่นที่ไม่สามารถมองเห็นได้ หรือที่นอนที่ใช้ไม่มีคุณสมบัติป้องกันไรฝุ่น ส่งผลให้เมื่อใช้ไปนานๆ ไรฝุ่นสะสมจนทำให้เกิดอาการภูมิแพ้กำเริบ

นอนแล้วรู้สึกร้อน

หากใครต้องนอนในสภาพเหงื่อชุ่ม รู้สึกร้อนจนนอนไม่หลับ นั่นอาจเป็นเพราะ ที่นอน ที่ใช้ไม่มีการระบายอากาศที่ดี จนทำให้ต้องตื่นตอนดึกอยู่บ่อยๆ เพราะทนกับความร้อนไม่ไหว ซึ่งนอกจากจะทำให้รู้สึกไม่สบายตัวแล้ว อาจก่อให้เกิดการอับชื้นและเกิดเชื้อราบนที่นอนได้ ดังนั้นควรเปลี่ยนมาใช้ ที่นอนยางพารา ที่มีคุณสมบัติระบายความร้อน ไม่ทำให้เกิดการอับชื้น เพื่อให้หลับสบาย และช่วยให้การนอนมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

มีอาการปวดเมื่อย ปวดหลัง

การนอนหลับที่ไม่ได้คุณภาพอาจทำให้เกิดอาการปวดหลังเรื้อรังได้ หากในทุกๆ วันที่ตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกปวดหลัง หรือปวดเมื่อยตามส่วนต่างๆของร่างกาย นั่นเป็นหนึ่งสัญญานที่บอกว่า ที่นอน ของคุณไม่ได้คุณภาพ และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อย

รบกวนคนที่นอนข้างๆ

หากขณะนอนพลิกตัวไปมาแล้วทำให้เกิดแรงสะเทือนถึงคนที่นอนข้างๆ จนคนข้างๆ ตื่น และนอนไม่หลับตามไปด้วย เป็นสัญญานที่ไม่ดีแน่ๆ เพราะที่นอนที่ดีจะรองรับสรีระทุกส่วนของร่างกาย แม้ขยับตัวก็จะไม่รบกวนคนที่นอนข้างๆ ปัญหานี้อาจเกิดกับคนที่นอนคนเดียวด้วย เพราะเมื่อเราพลิกตัว การสั่นเสะเทือนของเตียงก็ส่งผลกระทบต่อการนอนของเราเช่นกัน ซึ่งปัญหานี้ควรได้รับการแก้ไขทันที ก่อนที่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ อาจเปลี่ยนไปใช้ ที่นอนยางพารา ซึ่งรองรับสรีระทุกส่วนของร่างกาย และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

ที่นอนยางพารา ประเภทของที่นอนที่มีคุณภาพ ส่งผลให้การนอนมีประสิทธิภาพ โดย ที่นอนยางพารา Patex เป็นที่นอนที่ได้รับความนิยมมากจากคนไทย เนื่องจาก ออกแบบและวิจัยตามสรีระของคนไทยมานานกว่า 50 ปีช่วยประคับประคองให้กระดูกสันหลังเรียงตัวได้อย่างเป็นธรรมชาติที่สุดในขณะนอนหลับมีคุณสมบัติป้องกันไรฝุ่น ช่วยลดอาการภูมิแพ้กำเริบ จนไอจามแล้วเกิดปวดหลังตามมา ที่สำคัญคือช่วยให้นอนหลับได้อย่างมีคุณภาพ ไม่ว่าจะอาการปวดหลังเรื้อรังเพราะทำงานหนัก หรืออาการปวดหลังที่มีสาเหตุมาจากที่นอนที่ไม่ได้คุณภาพ ที่นอนยางพารา ก็จะช่วยขจัดปัญหาเหล่านี้ได้อย่างหมดสิ้น ซึ่งเมื่อการนอนของเรามีคุณภาพแล้ว ร่างกายย่อมเกิดการฟื้นฟูได้ตามธรรมชาติ ความเจ็บป่วยที่เป็นอยู่จึงทุเลาลงไปได้ สุขภาพที่ดีก็จะตามมา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และโฆษณา

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ Cookies ที่เราใช้งานได้แก่ Google Analytics และ Facebook Pixel

บันทึกการตั้งค่า