เมื่อพูดถึงอาชีพที่มีความเสี่ยงกระดูกสันหลังพังได้ง่าย หลายคนอาจนึกภาพกรรมกรแบกหาม หรือคนงานก่อสร้างที่ต้องขนอุปกรณ์มากมาย ซึ่งนั่นก็ใช่ แต่รู้หรือไม่ว่า ยังมีอาชีพอื่น ๆ ที่ไม่ต้องใช้งานช่วงหลังโดยตรง แต่ก็มีปัญหาทางกระดูกสันหลังมานักต่อนัก วันนี้เราจึงขอยก 5 อาชีพยอดฮิตที่ทำงานหนักจนหลังแบกรับไม่ไหวมานำเสนอ
4 อาชีพเสี่ยงกระดูกสันหลังพัง
1. พนักงานตามห้างสรรพสินค้า
สังเกตไหมคะว่า เวลาเราเข้าไปในห้างสรรพสินค้าแต่ละที แทบไม่เคยเจอพนักงานห้างฯ คนไหนได้นั่งอยู่เฉย ๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นพนักงานที่ต้องเชียร์ขายสินค้า แคชเชียร์ หรือฝ่ายที่ต้องคอยเดินเช็กของ นั่นเป็นเพราะว่าแต่ละคนต้องคอยให้บริการลูกค้าที่ทยอยเข้ามาไม่ได้หยุด รวมถึงลักษณะงานในหลายจุด ต้องมีการประสานงานหรือติดต่อกับแผนกอื่น ๆ อยู่เสมอ เวลาที่จะได้นั่งพักสักเล็กน้อยจึงแทบจะไม่มี
เมื่อยืนหรือเดินนาน ๆ แนวกระดูกสันหลังจึงรับแรงกดดันอยู่ตลอดเวลา ยิ่งถ้าใครชอบเดินผิดท่า ร่วมกับต้องคอยยกของ/เคลื่อนย้ายของไปด้วย น้ำหนักที่กดทับลงบนข้อต่อและหมอนรองกระดูกแต่ละชิ้นยิ่งเพิ่มสูงไปด้วย โอกาสที่หมอนรองกระดูกจะแตกจนกดทับเส้นประสาทจึงมีมากขึ้น
2. แอร์โฮสเตส
อาชีพที่หลายคนยกย่องให้เป็นนางฟ้าบนเครื่องบินนี้ แม้ฉากหน้าพวกเขาจะยิ้มแย้มแจ่มใสและมีภาพลักษณ์ที่สวยงาม แต่เชื่อหรือไม่ว่า หลายคนต้องน้ำตาซึมกับอาการปวดหลัง ปวดคอ หรือปวดทั่วทั้งตัว เพราะการปฏิบัติงานของแอร์โฮสเตสต้องใช้ร่างกายหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นยืนต้อนรับ เดินสำรวจและคอยสอบถามผู้โดยสาร ช่วยยกกระเป๋าเดินทาง เข็นรถเสิร์ฟอาหาร หรือปิดประตูเครื่องบิน
โดยท่าทางในแต่ละกิจกรรม มัดกล้ามเนื้อและกระดูกต้องเกร็งอยู่ตลอด เพื่อให้ทรงตัวอยู่ได้บนเครื่องบิน จริง ๆ แล้วจะเรียกต้องทรงตัวให้ได้ก็ยังไม่ถูกทั้งหมด เพราะด้วยภาพลักษณ์ของงานจึงต้องทรงตัวด้วยท่าทางที่ดูสง่างามอยู่เสมอ เมื่อต้องทำงานในลักษณะเป็นเวลาหลายปี ทำให้เจอปัญหากระดูกสันหลังพังแบบไม่รู้ตัว ตามด้วยอาการปวดตั้งแต่คอ บ่า ไหล่ ไปจนถึงข้อเท้า เพราะฉะนั้นใครที่มองว่าเป็นแอร์โฮสเตสแล้วสบาย อาจต้องคิดใหม่แล้วล่ะค่ะ
3. นักกีฬา
การออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ ใคร ๆ ก็รู้ว่าดีต่อสุขภาพ กล้ามเนื้อได้ยืดเหยียด แถมช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของข้อต่อและระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย แต่สำหรับคนที่ยึดอาชีพเป็นนักกีฬาอย่างจริงจัง แล้วต้องเจออาการกระดูกสันหลังพัง และกล้ามเนื้ออักเสบก็มีไม่น้อยเลย แล้วทำไมถึงเป็นแบบนั้น ? นั่นก็เพราะว่า การออกกำลังกายของนักกีฬาตัวจริงมีความแตกต่างกับการออกกำลังของคนทั่วไปมาก พวกเขาไม่ใช่แค่วิ่งแล้วอยากหยุดพักตอนไหนก็ได้ หรือไม่ใช่ซิทอัพสบาย ๆ ในห้องแอร์
แต่การเป็นนักกีฬามืออาชีพต้องเข้าสู่สนามการแข่งขันอยู่เป็นประจำ และแน่นอนทั้งตัวนักกีฬาเองและคนในทีมล้วนต้องการชัยชนะ เพราะฉะนั้น เหล่านักกีฬาจึงต้องฝึกซ้อมอย่างหนักในเวลาอันจำกัด และแต่ละครั้งอาจเจอแรงกดดันมากมาย โดยเฉพาะนักกีฬาทีมชาติที่ต้องแบกรับเรื่องชื่อเสียงของประเทศ เมื่อการออกกำลังกายที่ ‘หนักเกินไป’ บวกกับความเครียดในใจ กล้ามเนื้อจึงหดเกร็งและรัดตึงมาก ส่วนตามข้อต่อกระดูกสันหลังก็ไม่ได้หยุดพักการทำงาน นักกีฬาหลายคนจึงบาดเจ็บจากอาการกระดูกสันหลังพัง
4. พนักงานสายกราฟิก
พนักงานสายกราฟิก กลายเป็นตำแหน่งงานที่มีความสำคัญในโลกยุคปัจจุบันและอนาคต เพราะการเสพข้อมูลข่าวสารในทุกวันนี้ ผู้คนเลือกดูเนื้อหาและเข้าใจหลักคิดของแบรนด์ต่าง ๆ ผ่านภาพเป็นส่วนมาก เนื่องจากความเร่งรีบในแต่ละวัน ทำให้โอกาสที่จะเปิดอ่านข้อมูลยาว ๆ จึงมีน้อยลง เพราะฉะนั้น งานที่ถูกป้อนเข้ามาหาสายกราฟิกจึงมีติดต่อกันไม่ได้หยุด ทำให้ฝ่ายกราฟิกเองต้องเร่งผลิตงานออกมาด้วย
การนั่งตัดต่อรูปในคอมฯ โดยไม่ได้หยุดพักกลายเป็นเรื่องปกติ ซึ่งระหว่างนั่งทำงานก็ไม่ได้มีการจัดท่านั่งให้ถูกต้อง บางคนยังเผลอนั่งไขว่ห้างอยู่ตลอดเพราะอยากพักขา สุดท้ายอาการกระดูกสันหลังพัง ปวดหลัง ปวดคอ บ่า ไหล่จึงรุมเร้า และยังมีอีกหลายคนที่รับงานเสริมในตอนกลางคืนหรือวันหยุด ทำให้เวลานอนน้อยลงไปอีก นอกจากนั้นยังเจอความเครียดจากการที่ต้องแก้งานซ้ำ ๆ เมื่อปัจจัยเหล่านี้ประกอบกัน จึงส่งผลให้พนักงานสายนี้มักเป็นออฟฟิศซินโดรม และเจอปัญหาด้านจิตใจ อย่างการเป็นโรคซึมเศร้าหรือวิตกกังวลตามมาด้วย
และนี่เป็นเพียงตัวอย่างของสายงานบางส่วน เราเชื่อว่ายังมีอีกหลายอาชีพที่เสี่ยงกระดูกสันหลังพังได้ไม่แพ้กัน แม้การหลีกเลี่ยงในบางท่าทางอาจทำได้ยาก เช่น พนักงานบริการที่ต้องยืนทำงานนาน ๆ หรือสายออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานติดต่อกันหลายชั่วโมง แต่สิ่งหนึ่งที่คุณพอจะทำได้ก็คือ การได้นอนหลับพักผ่อนอย่างสบายที่สุด
หากที่นอนที่ใช้อยู่คุณภาพไม่ดี ลองปรับเปลี่ยนมาเป็นการซื้อท็อปเปอร์ที่นอนแก้ปวดหลังมาวางทับ เพราะท็อปเปอร์ที่นอนประเภทนี้มีการออกแบบให้รองรับสรีระร่างกายได้ทุกจุด กระดูกสันหลังที่ถูกกดทับมาทั้งวันจะได้ผ่อนคลายตัวมากขึ้น นอกจากนั้นท็อปเปอร์ที่นอนยังพกพาง่าย วันไหนได้หยุดพักและอยากจะแวะกางเต็นท์นอนชิล ๆ ก็พกท็อปเปอร์ที่นอนใส่กระเป๋าติดรถไปได้ด้วย บอกเลยว่าอาชีพไหนก็ใช้ได้หมด และในเมื่อทุกคนสู้งานแล้วแต่งานสู้กลับขนาดนี้ ต้องจัดไป ท็อปเปอร์ที่นอนดี ๆ สักผืน !