ยุคเศรษฐกิจแบบนี้ เชื่อว่าหลายคนอาจคิดหนักเรื่องซื้อที่นอนใหม่ เลยคิดว่าจะใช้ topper มาเสริมที่นอนเดิมไปก่อน แต่ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อ มาศึกษาเรื่องขนาดของมันกันสักนิด ซึ่งมีตั้งแต่ ท็อปเปอร์ 3 ฟุต, ท็อปเปอร์ 3.5 ฟุต, ท็อปเปอร์ 5 ฟุต ไปจนถึงท็อปเปอร์ 6 ฟุต เพื่อจะได้ topper ที่ถูกใจและถูกกายคุณมากที่สุด
ขนาดมาตรฐานของ topper
topper จัดว่าเป็น ‘อุปกรณ์เสริม’ ที่ต้องนับไปวางทับบนที่นอนตัวเดิมของคุณ จึงจะได้การนอนที่มีคุณภาพทัดเทียมกับการใช้ที่นอนยางพาราแท้ การออกแบบขนาดของ topper โดยทั่วไปจึงต้องเป็นไปตามขนาดที่นอนมาตรฐาน เวลาวางทับจะได้แนบกันอย่างสนิท
เพราะฉะนั้น ด้านความยาวของ topper จะมีขนาดเท่ากันทั้งหมดเหมือนกับขนาดทั่วไปของที่นอน คือ 6.5 ฟุต ส่วนด้านความกว้างจะแบ่งได้เป็น ท็อปเปอร์ 3 ฟุต, ท็อปเปอร์ 3.5 ฟุต, ท็อปเปอร์ 5 ฟุต และท็อปเปอร์ 6 ฟุต เช่นเดียวกัน ส่วนความหนาจะอยู่ที่ 2-3 นิ้ว
ท็อปเปอร์ 3 ฟุต
ท็อปเปอร์ 3 ฟุต คือ ท็อปเปอร์ที่มีด้านความกว้างอยู่ที่ 90 ซม. ซึ่งเป็นขนาดที่เล็กที่สุด ใช้คู่กับที่นอนแบบ Single Size Bed หรือเตียงเดี่ยว
เหมาะกับใคร :
- บ้านที่มีเด็กและวัยรุ่น เพราะนี่เป็นขนาดที่กำลังพอดีกับร่างกายของพวกเขามากที่สุด ใครอยากให้ลูกวัยกำลังโตนอนแยกห้องหรือแยกเตียง อาจยกเตียงนอนเดี่ยวตัวเก่าให้ลูกแล้วใช้ topper มาเสริมเข้าไป ลูกก็ได้นอนหลับเต็มอิ่มเหมือนนอนบนเตียงใหญ่ ๆ ได้เลย
- คนที่ในห้องมีพื้นที่จำกัด ห้องนอนมีขนาดเล็ก เพราะขนาดเล็ก ๆ แบบนี้นอกจากจะเอาไว้วางบนเตียงเดี่ยวตัวโปรดแล้ว จะเอามาวางบนพื้นแล้วนอนดูซีรีส์ เล่นเกมชิลล์ ๆ ก็ทำให้มีพื้นที่ในห้องเหลืออีกเยอะ
- คนที่ต้องเดินทางบ่อย เพราะเป็นขนาดที่พับเก็บได้ง่าย พกพาสะดวก จึงเป็นเครื่องนอนที่เซลล์แมนควรมีติดรถ นักท่องเที่ยว สายแคมป์ปิ้ง/กางเต็นท์ยิ่งต้องมี หรือคนที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตบนรถบ้านก็ควรใช้
ท็อปเปอร์ 3.5 ฟุต
ท็อปเปอร์ 3.5 ฟุต คือ ท็อปเปอร์ที่มีด้านความกว้างอยู่ที่ 107 ซม. ใช้คู่กับที่นอนแบบ Twin Size Bed หรือที่เรียกกันว่าเตียงคู่
เหมาะกับใคร : ถ้าดูขนาดเทียบกับ 3 ฟุตแล้ว จะเห็นว่าเพิ่มมาอีกแค่ 17 ซม. ดังนั้นคนที่อยู่ในกลุ่มที่เหมาะกับขนาด 3 ฟุต จึงใช้ได้เช่นเดียวกัน ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคลล้วน ๆ แต่ถ้าให้แนะนำก็คือ ต้องดูว่าคุณเป็นคนที่เน้นความคล่องตัวมากแค่ไหน ถ้าไม่เน้นมากขนาดนั้นและอยากได้พื้นที่พลิกตัวอีกสักนิด ก็เลือกเป็น 3.5 ฟุตจะกำลังดีที่สุด
ท็อปเปอร์ 5 ฟุต
ท็อปเปอร์ 5 ฟุต คือ ท็อปเปอร์ที่มีด้านความกว้างอยู่ที่ 150 ซม. ใช้คู่กับที่นอนแบบ Queen Size Bed ซึ่งเป็นเตียงขนาดใหญ่ที่นอนได้ 2 คน
เหมาะกับใคร :
- คู่รัก ถ้าเหล่าคนมีคู่ใช้ topper ขนาด 3-3.5 ฟุต แทนที่จะได้มีความสุขร่วมกัน จะกลับกลายเป็นนอนเบียดกันแน่นและพาลทะเลาะกันไปได้ ดังนั้นเพื่อให้ได้นอนกอดกันอย่างสบาย ควรใช้เป็นขนาดที่ 5 ฟุตจะพอดีกับทั้งสองคนมาก แถมจะย้ายไปไว้ที่ห้องบนดาดฟ้าเพื่อได้นอนดูดาวด้วยกันสักพัก แล้วค่อยขนมาวางทับบนเตียงเพื่อเติมเต็มช่วงเวลาหวาน ๆ ต่อก็แสนจะง่าย ขนาด 5 ฟุตนี่แหละจึงเพิ่มสีสันให้ชีวิตคู่ได้ดีที่สุด
- คู่เพื่อนซี้ ตอนนี้คุณมีเพื่อนซี้ชนิดตัวติดเป็นปาท่องโก๋อยู่หรือไม่ ขนาดที่ว่าต้องวิดีโอคอลหรือแชทคุยกันแทบจะทุกคืน ไม่งั้นนอนไม่หลับ แนะนำว่าให้คุณซื้อท็อปเปอร์ 5 ฟุตไว้ติดห้อง แล้วชวนเพื่อนคนนั้นมานอนที่บ้านด้วยเลย จะได้ไม่ต้องเหนื่อยคอยมองโทรศัพท์จนปวดคอ หรืออยากจะให้เพื่อนช่วยออกคนละครึ่งก็ได้ เพราะราคาท็อปเปอร์ที่ก็ไม่แพงอยู่แล้ว จะได้ยิ่งถูกลงไปอีก ทีนี้ล่ะจะได้เมาท์กันมันกว่าเดิมแน่นอน
ท็อปเปอร์ 6 ฟุต
ท็อปเปอร์ 6 ฟุต คือ ท็อปเปอร์ที่มีด้านความกว้างอยู่ที่ 180 ซม. ใช้คู่กับที่นอนแบบ King Size Bed เป็นเตียงที่ใหญ่ที่สุดในขนาดมาตรฐานที่นอนของไทย สามารถนอนได้ 2-3 คน
เหมาะกับใคร :
- ครอบครัว ถ้าตอนนี้ครอบครัวไหนที่พ่อแม่ลูกยังหวงแหนที่นอนตัวเดิมที่ใช้ด้วยกันมายาวนาน แต่อีกใจก็อยากได้ที่นอนรุ่นใหม่ แบบที่มีนวัตกรรมช่วยให้นอนสบายขึ้น แนะนำว่าให้เลือก topper คุณภาพดีขนาด 6 ฟุต มาวางทับที่นอนแสนรัก ก็ช่วยให้ได้สัมผัสการนอนที่มีความสุขได้ไม่แพ้กัน
- ชาวแก๊ง ไม่ว่าจะแก๊งใหญ่แก๊งเล็กแค่ไหน เราเชื่อว่าคุณคงอยากได้ไอเทมที่ช่วยพาเหล่าแก๊งย้ายโซนไปตามจุดต่าง ๆ ในบ้านได้ง่าย เช่น แก๊งสายรวมพลังสมอง เหล่านักศึกษาหรือคนทำงานทั้งหลาย ถ้าได้มี topper ขนาด 6 ฟุตไว้ที่ห้องทำงานของใครสักคน ก็ช่วยให้มีพื้นที่ได้นอนคิดและนั่งคิดไปพร้อม ๆ กัน รับรองหัวแล่นกว่าเดิมเยอะ หรือจะเป็นแก๊งสายเกม เน้นตีป้อม วางแผน ก็ต้องใช้ topper ขนาด 6 ฟุต ให้คนในทีมได้นอนเล่นร่วมกันถึงจะมันส์ที่สุด
ทีนี้ได้รู้ทั้งขนาดของ topper และรู้ว่าแบบไหนควรใช้กับใครมากที่สุด ก็หวังว่าจะช่วยให้คุณได้ตัดสินใจเลือกง่ายขึ้น สำหรับใครยังไม่รู้ว่าควรซื้อดีไหม ขอบอกว่า topper ไม่ได้มีดีแค่เพิ่มช่วงเวลาแห่งความสุข แต่ยังยกระดับคุณภาพการนอนได้แบบเหนือชั้นจนคุณต้องคาดไม่ถึง