เช็คลิสต์อาการที่บ่งบอกว่าถึงเวลาเปลี่ยนหมอน
หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับการนอน ไม่ว่าจะเป็นนอนหลับไม่สนิท ตื่นบ่อยระหว่างคืน ปวดเมื่อยตัว โดยเฉพาะบริเวณคอ บ่า ไหล่ หลังตื่นนอน ทั้งหมดนี้อาจจะเกิดขึ้นจากหมอนที่ไม่สามารถรองรับสรีระศรีษะและลำคอของคุณอย่างเหมาะสม ปัญหาการนอนเพราะหมอนไม่ใช่เรื่องแปลก หมอนที่ไม่ได้ให้การรองรับที่เหมาะสม นอนไม่สบาย หรือทำให้เกิดอาการปวดอาจส่งผลเสียต่อคุณภาพการนอนหลับของคุณ ต่อไปนี้คือปัญหาการนอนที่พบบ่อยเนื่องจากหมอนและวิธีแก้ไข
1. นอนไม่หลับ นอนหลับไม่สนิท
หากหมอนของคุณทำให้คุณรู้สึกไม่สบายหรือปวดเมื่อย ย่อมส่งผลให้คุณต้องพลิกตัวไปมาบ่อย ๆ ทั้งก่อนหลับและระหว่างคืนเพื่อหาจุดที่ลงตัว และการพลิกตัวไปมานี่เองที่ส่งผลให้คุณภาพการนอนหลับของคุณลดลง ทำให้คุณรู้สึกเหมือนนอนไม่พอและเมื่อยล้า
วิธีแก้: ควรพิจารณาเลือกปรับระดับความสูงหรือรูปทรงของหมอน หรือแม้แต่การลองใช้วัสดุหมอนชนิดที่ยื่นหยุ่นได้ดีเพื่อช่วยรองรับสรีระของคุณ โดยควรพิจารณาร่วมกับท่านอนหลักและรูปร่างของคุณ เช่นหากคุณเป็นคนชอบนอนตะแคงหมอนที่เหมาะสมควรจะมีความสูงพอเหมาะกับช่วงไหล่เพื่อให้หมอนสามารถรองรับคอได้พอดี ไม่ทำให้คอเกร็งระหว่างนอน หรือหากยังไม่แน่ใจ สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราเพื่อรับคำแนะนำได้ค่ะ
2. นอนกรน
หมอนที่ไม่รองรับศีรษะและคอของคุณอย่างเหมาะสมอาจทำให้เกิดการกรนได้ หากหมอนสูงเกินไปมักจะก่อให้เกิดการดันไปข้างหน้าของศรีษะและเกิดการพับงอในส่วนคอขณะนอน ทำให้ทางเดินหายใจของคุณถูกปิดกั้น ส่วนหมอนที่เตี้ยเกินไปก็จะทำให้คอแอ่นไปด้านหลังทำให้ทางเดินหายใจถูกปิดกั้นเช่นกัน
วิธีแก้: การเลือกหมอนที่ออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระลำคอ สำคัญเป็นอย่างมากสำหรับผู้มีอาการนอนกรน เพราะนอกจากจะป้องกันความปวดเมื่อยของลำคอแล้ว ยังช่วยให้ทางเดินหายใจสะดวกขั้นอีกด้วย
3.เกิดอาการแพ้ / ภูมิแพ้
หากคุณเป็นโรคภูมิแพ้ หมอนของคุณอาจเป็นสาเหตุของการระคายเคืองที่รบกวนการนอนของคุณ ซึ่งอาการแพ้เหล่านี้อาจจะเกิดจากสภาพหมอนที่เก่าเกินอายุใช้งาน จากไรฝุ่น เชื้อรา หรือแบคทีเรียที่สะสม หรือแม้แต่การขาดการทำความสะอาดหมอนอย่างเหมาะสม
วิธีแก้: พิจารณาวัสดุภายในของหมอนโดยเลือกวัสดุที่ไม่ก่อให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคและไรฝุ่น เช่น ยางพารา ที่มีคุณสมบัติป้องกันไรฝุ่นและแบคทีเรีย และหากเป็นไปได้ควรเลือกปลอกหมอนที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้เพื่อลดการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ โดยเฉพาะในช่วงนอนหลับที่กินเวลาถึง 1/3 ของวันกันนะคะ
4. ร้อน เหงื่อออกระหว่างคืน
หมอนบางใบอาจกลายเป็นที่สะสมความร้อนระหว่างคืนได้ เพราะร่างกายของเราจะคลายความร้อนออกจากตัวยามหลับ หากหมอนของคุณไม่สามารถระบายอากาศได้ดี ย่อมจะทำให้บริเวณโดยรอบศรีษะและลำคอของคุณมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น จนกลายเป็นความร้อนสะสมที่ทำให้คุณเหงื่อออก และรบกวนการนอนหลับของคุณได้
วิธีแก้: สอบถามวัสดุของหมอนก่อนซื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าหมอนมีคุณสมบัติในการระบายอากาศได้ดีแค่ไหน โดยปกติแล้วหมอนที่มีลักษณะโครงสร้างเป็นเซลล์เปิด (open-cell) เช่น ยางพารา จะเปรียบเสมือนหมอนที่มีรูระบายอากาศทั่วทั้งใบ จึงถือว่าสามารถช่วยระบายความร้อนได้ดีกว่าหมอนประเภทโครงสร้างเซลล์ปิด เช่น เมมโมรี่โฟม
5. ปวดหรือไม่สบาย
หากหมอนของคุณทำให้เกิดอาการปวดหรือไม่สบายที่คอ ไหล่ หรือหลัง อาจเป็นสัญญาณว่าหมอนไม่ได้รองรับท่านอนของคุณอย่างเหมาะสม หรือไม่มีความยืดหยุ่นที่ดี ที่เพียงพอกับร่างกายของคุณ
วิธีแก้: นอกจากเลือกหมอนที่มีความสูง และรูปทรงเหมาะสมกับรูปร่างและท่านอนของคุณแล้ว อย่าลืมดูเรื่องความยืดหยุ่น ความนุ่มเด้งของหมอนด้วยว่า หมอนมีความยืดหยุ่นได้ดีแค่ไหน เพราะหมอนบางชนิดอาจจะให้สัมผัสที่นุ่มน่านอน แต่เมื่อนอนไปนาน ๆ กลับไม่สามารถรองรับสรีระศรีษะและลำคอได้ดี
หากคุณมีอาการเหล่านี้หรือสงสัยว่าหมอนที่นอนอยู่อาจจะไม่ให้ความรู้สึกสบายเหมือนเคย คุณอาจจะลองเลือกปรับความสูง รูปทรง หรือวัสดุของหมอนเพื่อหาหมอนที่สบายและรองรับสรีระได้ดีขึ้นนะคะ เพราะเราใช้เวลาถึง 1/3 ของวันกับหมอนใบนี้ เราจึงควรเลือกหมอนที่ส่งเสริมทั้งคุณภาพการนอน และคุณภาพร่างกายอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามหากอาการของคุณรุนแรงและต่อเนื่องนั้นอาจจะเป็นสัญญาณของอาการบางอย่าง เช่น เส้นประสาทถูกกดทับหรือหมอนรองกระดูกเคลื่อน คุณจึงควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยขจัดปัญหาสุขภาพพื้นฐานที่อาจทำให้คุณรู้สึกไม่สบายยามนอนนะคะ