การทำงานในทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของภาครัฐหรือเอกชน พบว่าคนมากกว่า 90% ใช้เวลานั่งทำงานติดต่อกันวันละหลายชั่วโมง และหลายคนก็ไม่ได้สังเกตท่านั่งทำงานของตัวเองว่า จริง ๆ แล้วนั่นอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้คุณต้องเผชิญเกิดอาการปวดหลัง งั้นเรามาดูกันว่ามีท่านั่งแบบไหนที่พอนั่งไปนาน ๆ แล้วจะมีส่งผลเสียต่อหลังบ้าง
7 ท่านั่งทำงานสุดอันตราย ทำร้ายหลังอย่างหนัก
1. นั่งหลังค่อม
ลองสังเกตดูจะพบว่า คนส่วนใหญ่มักอยู่ในท่านั่งทำงานแบบนี้เป็นประจำ เพราะรู้สึกว่าสบาย แถมยังได้มองเห็นคอมฯ หรือเอกสารได้ชัดเจน ยิ่งคนที่ทำอาชีพเสี่ยงหลังพังอย่างสายกราฟิก อาจเผลอนั่งงอตัวเป็นกุ้งอยู่ได้ทั้งวัน ดังนั้น ต้องคอยเตือนตัวเองให้ได้ว่า ต่อให้งานจะเร่งขนาดไหน ก็อย่านั่งหลังค่อมเกินไป เพราะจะส่งผลให้กล้ามเนื้อหดเกร็งมากกว่าปกติ และเกิดการสะสมของกรดแลคติกจนทำให้เกิดอาการปวดหลัง รวมถึงปวดไหล่และสะโพก นานวันเข้าอาจมีปัญหาปวดกระดูกและกระดูกผิดรูปได้ด้วย
2. นั่งตัวตรงเกินไป
หลายคนอาจคิดว่าท่านั่งทำงานแบบนี้ มันดีแล้วไม่ใช่เหรอ ? แต่อยากให้คุณลองสังเกตดู เวลาที่เรานั่งตัวตรงมากเกินไป ช่วงก้นของเรามักไม่ได้สัมผัสลงไปกับเก้าอี้แบบเต็ม ๆ หรือหลังแนบชิดกับพนักพิงไม่สนิท ผลคือแทนที่น้ำหนักตัวจะถ่ายเทลงไปที่ช่วงก้นและเก้าอี้ กลับกลายเป็นว่า คุณกำลังทำให้กล้ามเนื้อหลังรวมถึงกระดูกสันหลังประคองตัวเองโดยไม่ได้พัก แน่นอนว่ามวลกล้ามเนื้อและกระดูกจึงขอประท้วงโดยแสดงอาการปวดหลังออกมา เพื่อส่งสัญญาณว่าให้หลังได้พักกับเก้าอี้บ้างเถอะ
3. นั่งไขว่ห้าง
หนึ่งในท่านั่งทำงานยอดฮิตที่ช่วยเสริมบุคลิกให้ดูดี แต่ถ้านั่งไขว่ห้างนานเกินไป บางทีก็เสริมอาการปวดหลังมาให้คุณได้ด้วย เพราะท่านั่งสุดเก๋นี้ คุณต้องยกขาข้างหนึ่งมาทับอีกข้างหนึ่งเต็ม ๆ สะโพกจึงไม่ได้อยู่ในแนวเดียวกัน กล้ามเนื้อขาและก้นด้านล่าง รวมไปถึงเส้นประสาทกับเส้นเลือด ก็ถูกกดทับจากขาด้านบน ช่วงกระดูกสันหลังก็บิดตัวไปด้วย นอกจากนั้น เชื่อว่าหลายคนไม่ได้นั่งเกร็งให้ดูสวยได้อยู่ตลอด จึงเพิ่มท่านั่งผิด ๆ อย่างการนั่งหลังค่อมเข้าไปด้วย สุดท้ายจึงกลายเป็นท่านั่งที่ไม่สมดุล ทำให้เกิดอาการปวดเอว ปวดสะโพก และอาจทำให้กล้ามเนื้อชาได้อีก
4. กึ่งนั่งกึ่งนอน
เชื่อว่าใคร ๆ ต้องมีท่านั่งทำงานแบบนี้กันบ้าง ยิ่งตอนไม่มีเพื่อนร่วมงานหรือเจ้านายมาเห็น รวมทั้งชาว Work From Home ที่ชอบทำงานบนที่นอน เพราะเหมือนได้พักผ่อนไปด้วย ทำงานไปด้วย แต่อยากให้ลุกมานั่งทำงานบนเก้าอี้จะดีกว่า เพราะนี่เป็นท่านั่งสุดอันตรายที่ทำร้ายสรีระช่วงหลังได้ ตั้งแต่ส่วนบนไปจนถึงส่วนล่าง เนื่องจากท่านั่งทำงานลักษณะนี้ คุณจะต้องงอหรือก้มคออยู่เป็นเวลานาน ซึ่งส่งผลเสียโดยตรงกับหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนคอ และกล้ามเนื้อหลังจะแข็งเกร็งกว่าปกติ เมื่อนั่งจนติดเป็นนิสัย อาการอักเสบช่วงคอ บ่า ไหล่ก็จะถามหา แถมหลังส่วนล่างก็มีอาการปวดร่วมด้วย เพราะต้องคอยแอ่นตัวและรับแรงกดจากน้ำหนักตัวอยู่ตลอด
5. นั่งกอดอก
เคยไหมนั่งคิดงานจนเครียด คิดยังไงก็คิดไม่ออก เลยขอนั่งกอดอกใช้สมาธิสักหน่อย ปรากฏว่าจมอยู่ในความคิดนานเกินไปกว่าครึ่งชั่วโมง ซึ่งท่านั่งทำงานแบบนี้ กระดูกหลังช่วงบน สะบัก และหัวไหล่จะถูกยืดออก กลายเป็นว่าหลังช่วงบนอยู่ในลักษณะงองุ้ม กระดูกคอยื่นไปข้างหน้า ทำให้กระทบกับการทำงานของเส้นประสาทไปยังส่วนแขน ผลที่ตามมาคือเกิดอาการชามือและแขนอ่อนแรง ยิ่งถ้าเกิดกระดูกช่วงคอมีการผิดรูป กล้ามเนื้อบริเวณคอก็จะยิ่งหดเกร็ง เลือดไปหล่อเลี้ยงสมองได้ไม่สะดวก จนอาจนำไปสู่อาการปวดศีรษะเรื้อรัง หรือกลายเป็นไมเกรนได้เลย คราวนี้ทำเอาคิดงานไม่ออกหนักกว่าเดิม
6. นั่งขัดสมาธิ
เป็นอีกหนึ่งท่านั่งทำงานของคนที่เบื่อท่านั่งห้อยขาแบบเดิม ๆ แต่ไม่ควรเผลอนั่งแบบนี้นานเกินไป เพราะเวลาที่นั่งงอเข่าเป็นชั่วโมง เลือดจะไหลไปหล่อเลี้ยงบริเวณเท้าได้น้อยลง เสี่ยงเป็นเส้นเลือดอุดตัน และยังส่งผลเสียต่อระบบกระดูกและข้อ โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคอ้วนหรือน้ำหนักเยอะจนเสี่ยงปวดหลังง่ายอยู่แล้ว แรงที่กดทับลงไปบนหัวเข้าทั้งสองข้าง อาจเร่งเวลาให้ข้อเข่าเสื่อมได้เร็วขึ้น กลายเป็นว่าแค่ใช้ท่านั่งทำงานแบบขัดสมาธิ ก็ทำให้มีปัญหาทั้งหลังและเข่าในคราวเดียว
7. นั่งห่างจากโต๊ะทำงานมาก
บางคนกังวลเรื่องแสงจากหน้าจอคอมฯ เลยพยายามจัดท่านั่งทำงานใหม่แบบให้มีระยะห่างจากโต๊ะมากหน่อย แต่ด้วยภาวะเร่งรีบ ต้องจัดแจงเอกสารบนโต๊ะหลายอย่าง จึงลืมขยับตัวให้เข้าใกล้โต๊ะคอมฯ มากขึ้น เวลาหันมาพิมพ์งานแต่ละทีจึงต้องเอื้อมมือและแขนออกไปสุดตัว แม้ไม่ได้มีท่านั่งทำงานแบบนี้เป็นประจำ แต่เมื่อนั่งแบบนี้อยู่ซ้ำ ๆ กล้ามเนื้อช่วงแขนและหลังก็จะได้รับผลเสียสะสม จนทำให้วันนั้นคุณเมื่อยล้าไปทั้งตัว
ใครที่พบว่าท่านั่งทำงานเหล่านี้คือท่านั่งประจำตัว งั้นควรรีบเปลี่ยนเป็นท่านั่งที่ถูกต้องอย่างด่วน ๆ รวมทั้งฝึกท่าโยคะลดอาการปวดหลังทุกครั้ง เมื่อได้พักผ่อนอยู่บ้าน ซึ่งไอเทมเสริมที่ควรมีคู่กันคือท็อปเปอร์แก้ปวดหลังสักผืน เพราะใช้แทนเสื่อโยคะได้ ขนย้ายไปวางทับที่นอนตัวเดิมก็สะดวก แต่ถ้าจะเลือกท็อปเปอร์แก้ปวดหลังที่ดีที่สุด ต้องดูที่มีเทคโนโลยี 7 BODY ZONE SUPPORT ด้วย ถึงจะช่วยรองรับสรีระได้ทุกส่วน ลองทำตามนี้เมื่อไหร่ อาการปวดหลังเพราะท่านั่งทำงานผิด ๆ ก็จะเบาลงไป เพราะใช้ท็อปเปอร์แก้ปวดหลังเป็นประจำนั่นเอง