ภัยร้ายจากไรฝุ่นที่แฝงตัวบนที่นอนท็อปเปอร์ของคุณ

แม้เราจะอยู่ในยุคโรคระบาดที่ควรเน้นเรื่องการอยู่บ้านให้มาก ๆ แต่ก็ยังมีคนอีกมากมายที่หลีกเลี่ยงเรื่องการเดินทางไกลหรือการย้ายถิ่นฐานไม่ได้ เนื่องจากเหตุผลด้านการทำงาน เช่น บรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องตระเวนขายของ หรือเหล่าเซลล์แมนที่ต้องออกพบปะหาลูกค้า เป็นต้น ที่นอนท็อปเปอร์ จึงยังคงเป็นเครื่องนอนที่จำเป็นสำหรับใครหลายคน

แต่วันนี้เรามีเรื่องอยากมาเตือนคุณสักนิด นั่นก็คือ ที่นอนท็อปเปอร์ที่ใช้อยู่ คุณอาจไม่ได้เป็นเจ้าของเครื่องนอนนี้เพียงคนเดียว เพราะมีความเป็นไปได้สูงมากว่า เจ้าไรฝุ่นตัวร้ายกำลังเข้ายึดครองพื้นที่ส่วนตัวนี้ด้วย หากคุณไม่ได้เลือกใช้ที่นอนท็อปเปอร์ที่มีคุณสมบัติกันไรฝุ่นแต่ทีแรก

ทำความรู้จัก ไรฝุ่น วายร้ายตัวจิ๋วบนที่นอนท็อปเปอร์

ไรฝุ่น (Dust Mites) เป็นสัตว์จำพวกแมลงที่มีลักษณะคล้ายกับแมงมุม หมัด หรือเห็บ มี 8 ขา และมีขนาดตัวที่เล็กมากจนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เพราะลำตัวมีความยาวเพียง 0.1-0.3 มิลลิเมตร ถ้าเทียบให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือเล็กกว่ารอยจุดปากกาบนกระดาษ

สภาพแวดล้อมที่ถูกใจเจ้าตัวไรฝุ่นมากที่สุด คือ สถานที่ที่มีความอบอุ่นและอับชื้นประมาณ 60 % เต็มไปด้วยฝุ่นละออง รวมทั้งชอบซุกตัวอยู่ตามเส้นใยผ้าด้วย

ส่วนอาหารที่ชอบมากที่สุดคือเซลล์ผิวหนังของสิ่งมีชีวิต สำหรับเซลล์ผิวหนังของคนเรานั้น โดยทั่วไปจะหลุดลอกออกมาวันละประมาณ 1.5 กรัม ซึ่งปริมาณเพียงเท่านี้ ถือว่าเพียงพอที่จะทำให้เจ้าไรฝุ่นเจริญเติบโตได้อย่างแข็งแรง และสามารถแพร่พันธุ์ได้อีกมหาศาล

ด้วยเหตุนี้ ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่ทำจากผ้า ไม่ว่าจะเป็นหมอน ที่นอน ผ้าห่ม พรม ตุ๊กตาผ้า รวมไปถึงที่นอนท็อปเปอร์ ที่มักมีเซลล์ผิวหนังของเราหลุดร่วงอยู่มาก จึงกลายเป็นแหล่งพักพิงของไรฝุ่น

ยิ่งไปกว่านั้น หลายคนยังชอบนอนทั้งที่ผมยังเปียก ทำให้มีปัญหาเรื่องรังแคบนหนังศีรษะฟุ้งกระจายทั่วหมอนและที่นอนท็อปเปอร์ สุดท้าย เจ้าไรฝุ่นจึงตัดสินใจว่าขอลงหลักปักฐานที่นี่ไปเลยแล้วกัน พร้อมกับสร้างครอบครัวอันอบอุ่นอย่างสบายใจ

อันตรายจากไรฝุ่น

ไรฝุ่น ไม่ได้เป็นสัตว์ที่มีคมเคี้ยวไว้ทำร้ายเราโดยตรง แต่ถูกจัดให้เป็นสารก่อภูมิแพ้ชนิดหนึ่งที่ทำให้คนเรามีอาการภูมิแพ้กำเริบ เนื่องจากตัวไรฝุ่นที่ตายแล้วจะมีจำนวนโปรตีนอยู่เป็นจำนวนมาก ขณะที่สูดลมหายใจเข้าไปหรือผิวหนังไปสัมผัสกับตัวไรฝุ่นที่ตาย ร่างกายก็จะสร้างภูมิต้านทาน (antibodies) ขึ้นมา โดยปล่อยสารเคมีที่เรียกว่า ฮีสตามีน ทำให้ผิวหนังมีอาการบวมและคันทุกครั้งที่ล้มตัวนอน นอกจากนั้น บริเวณทางเดินหายใจตอนต้นอาจเกิดการระคายเคืองไปด้วย หลายคนจึงมีอาการไอจามบ่อย ๆ ซึ่งหากไม่รีบแก้ไขเพื่อหยุดเจ้าไรฝุ่นไว้ อาจนำไปสู่การเป็นโรคดังต่อไปนี้

• โรคผิวหนังอักเสบ มีผื่นแดงขึ้นทั่วตัว
• โรคทางเดินหายใจอักเสบ
• โรคตาอักเสบระคายเคือง
• โรคจมูกอักเสบ
• โรคปวดศีรษะ
• โรคหอบหืด
• โรคภูมิแพ้

โดยเฉพาะโรคหอบหืดนั้น หากมีอาการหนักอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ส่วนโรคภูมิแพ้ ก็เป็นโรคที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมไปยังลูกหลานได้ เราจึงไม่ควรมองข้ามความอันตรายของไรฝุ่นตัวจิ๋วนี้ และปล่อยให้ที่นอนท็อปเปอร์ที่ใช้มีไรฝุ่นสะสมต่อไปเรื่อย ๆ

เพราะนอกจากจะเกิดผลกระทบกับตัวเราโดยตรงแล้ว คุณแม่ที่กำลังตั้งท้องหรือคู่รักที่วางแผนมีน้องในอนาคต อาจจะต้องเครียดและเสียเงินมากขึ้นในระยะยาว เพราะลูกสุดที่รักมีภูมิคุ้มกันทางร่างกายที่ไม่แข็งแรงเหมือนคนอื่น ดังนั้น การกำจัดไรฝุ่นเสียตั้งแต่วันนี้จึงเป็นวิธีป้องกันได้ดีที่สุด

วิธีลดปริมาณการสะสมตัวของไรฝุ่น

• นำเครื่องใช้ที่เป็นผ้า เช่น หมอน ผ้าห่ม ผ้าม่าน ตุ๊กตา หรือที่นอนท็อเปอร์ไปซัก แต่ไรฝุ่นจะตายก็ต่อเมื่อเจอความร้อนที่สูงถึง 60 องศาเซลเซียสขึ้นไป และต้องได้รับความร้อนอย่างน้อย 30 นาที ดังนั้นคุณอาจต้องเสียเงินเพิ่ม เพื่อใช้บริการร้านที่มีการซักและอบผ้าด้วยน้ำร้อน ถึงจะกำจัดไรฝุ่นได้อย่างหมดจด
• ถ้าเครื่องนอนที่ใช้อยู่สามารถตากแดดหรือพึ่งลมได้ ก็สามารถแก้ได้ด้วยวิธีนี้ อย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจว่าเครื่องนอนที่มีเส้นใยผ้าหรือใยสังเคราะห์ ยังมีช่องโหว่ให้เจ้าตัวไรฝุ่นหนีจากแดดแล้วไปหลบซ่อนตัวในที่อับกว่าแทน ดังนั้นจึงต้องคอยพลิกด้านเครื่องนอนให้ได้รับแสงแดดอย่างทั่วถึงอยู่เสมอ
• ใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีประสิทธิภาพสูง แต่คนที่มีอาการภูมิแพ้หนัก ๆ ควรหลีกเลี่ยงวิธีนี้ หรือใส่หน้ากากสวมทับอย่างหนา เพื่อป้องกันไม่ให้สูดไรฝุ่นที่ฟุ้งกระจายอยู่เข้าไป
• หากลองทำตามวิธีข้างต้นแล้วรู้สึกว่าไม่สะดวก โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เลือกใช้ที่นอนท็อปเปอร์ เพราะต้องการความรวดเร็วในการเคลื่อนย้าย ขอแนะนำว่าให้เปลี่ยนเป็นที่นอนท็อปเปอร์ยางพาราคุณภาพดีแทน เนื่องจากท็อปเปอร์ยางพาราแท้ 100% จะมีคุณสมบัติพิเศษ คือ Nano-Zinc Oxide Latex ที่ทำให้ไรฝุ่นไม่สามารถสะสมหรือฝังตัวอยู่ได้ในเนื้อยาง นอกจากนั้น คุณสมบัติโดดเด่นอีกประการก็คือ การมีเทคโนโลยี Latex-Pin hole และ Latex Open cell ที่ช่วยเนื้อยางระบายอากาศได้ดี ที่นอนท็อปเปอร์จะไม่สะสมความร้อน เวลานอนจึงไม่มีปัญหาเหงื่อซึมจนที่นอนอับชื้น ซึ่งป้องกันการเกิดเชื้อราและแบคทีเรียได้ไปในตัว

รู้แบบนี้แล้ว ใครไม่อยากเสียเงินเพิ่มเพื่อหาร้านทำความสะอาด หรือไม่มีเวลาที่จะทำความสะอาดเครื่องนอนได้บ่อย ๆ แค่ซื้อที่นอนท็อปเปอร์ยางพาราระดับพรีเมียมมาติดห้องติดรถไว้ ชีวิตก็ง่ายขึ้นแล้ว อย่าลืมใส่ใจสุขภาพการนอนเด็ดขาดนะคะ ไม่งั้นเรื่องที่ดูจิ๋ว ๆ นี้ อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้ในสักวันหนึ่ง