ถ้าให้นึกภาพคนสมัยก่อนนอนหลับอยู่ในบ้าน หมอนที่ใช้คงไม่ใช่หมอนขนเป็ด หมอนขนห่าน หรือหมอนยางพาราแบบที่เราคุ้นตากันทุกวันนี้อย่างแน่นอน ปัจจุบันการเลือกหมอนที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยแก้ปัญหาปวดคอปวดบ่าได้กำลังมาแรง เพราะเป็นปัญหายอดฮิตของวัยทำงาน เราขอพาคุณไปทำความรู้จักเครื่องนอนชนิดนี้กันให้มากขึ้น เพื่อให้คุณนอนหลับได้อย่างสบายเพราะรู้วิธีเลือกหมอนที่ใช้หนุนได้ตามต้องการ
1. กำเนิดหมอน เครื่องนอนรองศีรษะนี้มีตั้งแต่เมื่อไร
ต้นกำเนิดของหมอนสามารถย้อนไปได้ถึงสมัยอารยธรรมเมโสโปเตเมียกันเลยทีเดียว แน่นอนว่าคนในสมัยนั้นคงไม่ได้ใช้หมอนยางพารานุ่มแน่นมาหนุนเป็นแน่ แต่มักจะเป็นหินหรือไม้ที่เอามารองหัว เพราะคนสมัยโบราณไม่ได้หนุนหมอนเพื่อความสบาย แต่ใช้หนุนเพื่อยกหัวสูงจากพื้น กันมดและแมลงอื่น ๆ คลานเข้าหู ส่วนหมอนที่กลายมาเป็นต้นแบบของหมอนในปัจจุบันมาจากอารยธรรมของชาวกรีกและโรมันที่ใช้ฝ้ายหรือต้นกกทำไส้หมอน
2. หมอนไทยทรงสามเหลี่ยม
หมอนจากภูมิปัญญาไทยที่หลายคนรู้จักหน้าตาแต่ไม่รู้จักชื่อเรียก มักเป็นทรงสามเหลี่ยมอันใหญ่เหมาะกับการเอนพิงแก้เมื่อย หมอนนี้เรียกว่า หมอนขิด หรือหมอนขวาน เป็นศิลปหัตถกรรมของคนภาคอีสานมาแต่โบร่ำโบราณ ทำจากผ้าขิดที่ต้องใช้ฝีมือระดับสูงในการทอ ในสมัยก่อนจึงมักทำหมอนขิดใช้สำหรับงานมงคลมากกว่าใช้ในชีวิตประจำวัน ปัจจุบันกลายเป็นของดีประจำจังหวัดยโสธรตามคำขวัญจังหวัดที่ว่า “เมืองบั้งไฟโก้ แตงโมหวาน หมอนขวานผ้าขิด แหล่งผลิตข้าวหอมมะลิ”
3. วัสดุที่ใช้ทำหมอน
หมอนในท้องตลาดมีหลากหลาย ทั้งหมอนใยสังเคราะห์ หมอนขนเป็ด หมอนยางพารา และหมอนผ้าฝ้าย ซึ่งจะมีคุณภาพและราคาในกลุ่มหมอนชนิดเดียวกันแตกต่างกันไปอีก เช่น
หมอนใยสังเคราะห์ จะผลิตจากใยโพลีเอสเตอร์ มีความฟูนุ่มและหาซื้อได้ง่าย
หมอนขนเป็ดคุณภาพสูง จะใช้ขนจากส่วนอกและหน้าท้อง
หมอนยางพาราแท้ จะผลิตจากน้ำยางที่ได้คุณภาพ สามารถรองรับศีรษะ ต้นคอ และบ่าได้ดี และไม่กักเก็บฝุ่น
หมอนต่างชนิดกัน ก็จะมีอายุการใช้งานต่างกันไปด้วย ดังนั้น จึงควรสังเกตว่าหมอนเสื่อมสภาพแล้วหรือยัง เพื่อเปลี่ยนหมอนใหม่ ซึ่งสามารถช่วยให้หลับลึกได้อย่างมีคุณภาพอยู่เสมอ
4. หมอนแบบไหนดีอย่างไรบ้าง
เมื่อหมอนไม่ได้คุณภาพ จะทำให้นอนหลับไม่สนิทจนพักผ่อนได้ไม่เพียงพอ จึงควรเลือกใช้หมอนที่ช่วยแก้ปัญหาที่รบกวนการนอนได้ และใช้หมอนประเภทที่เหมาะกับตัวคุณเอง หมอนใยสังเคราะห์คืนตัวได้ดี ซักแล้วแห้งเร็ว แต่เมื่อใช้ไปนาน ๆ จะยุบตัวและสะสมฝุ่นได้ง่าย ส่วนหมอนขนเป็ดจะมีสัมผัสที่นุ่มมาก รองรับศีรษะได้ดี แต่ไม่เหมาะสำหรับผู้เป็นภูมิแพ้เพราะสะสมฝุ่นได้ง่ายเช่นกัน ในขณะที่หมอนยางพาราจะมีความยืดหยุ่นสูง ไม่ยุบตัวง่าย มักถูกออกแบบมาเพื่อรองรับต้นคอตามหลักสรีระศาสตร์ได้เป็นอย่างดี รวมถึงมีเทคโนโลยีป้องกันไรฝุ่นและภูมิแพ้
5. ทำความสะอาดอย่างไรให้ถูกต้อง
หมอนแต่ละประเภทมีวิธีทำความสะอาดแตกต่างกัน โดยหมอนใยสังเคราะห์จะต้องนำไปซักทุก ๆ 2-3 เดือน ส่วนหมอนขนเป็ดต้องหมั่นตบหมอนและผึ่งแดด หากน้ำไปซักควรอบแห้งก่อนนำมาใช้ต่อ แต่ถ้าเป็นหมอนยางพาราไม่ควรถูกแดดจัดเพราะจะทำให้ยางเสื่อมสภาพ หากเปื้อนให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดออก แล้วนำไปผึ่งลมให้แห้ง
การเลือกใช้หมอนขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล แต่สำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้หรือต้องการหมอนที่มีอายุการใช้งานยาวนาน หมอนยางพาราของ PATEX สามารถตอบสนองความต้องการของคุณได้ เพราะป้องกันไรฝุ่นได้เป็นอย่างดี อายุการใช้งานยาวนานถึง 5 ปี พร้อมการรับประกันอีก 1 ปีเต็ม เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัยที่ต้องการหมอนยางพารามีคุณภาพ คุ้มค่ากับการลงทุนเพื่อสุขภาพในระยะยาว