ท็อปเปอร์ กลายเป็นอุปกรณ์เสริมการนอนยอดนิยมของคนยุคนี้ เพราะหลายคนกำลังมีปัญหาเรื่องที่นอนเก่าเกินไปแต่ก็ไม่พร้อมเปลี่ยนที่นอนใหม่ จนเริ่มหันมาสนใจท็อปเปอร์กันมากขึ้น แต่ท็อปเปอร์มีกี่ประเภท แล้วมีข้อแตกต่างกันยังไง PATEX มีเคล็ดลับดี ๆ มาให้คุณได้พิจารณาค่ะ
1. ท็อปเปอร์ใยฝ้าย/ใยสังเคราะห์
ข้อดี
- ให้ผิวสัมผัสนุ่ม
- ทำความสะอาดง่าย เพราะบางชนิดสามารถซักเครื่องซักผ้าได้
- มีให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ที่ทำจากใยสังเคราะห์ไปจนถึงใยฝ้ายจากธรรมชาติแท้
- ราคาถูกกว่าท็อปเปอร์ชนิดอื่น เหมาะกับคนที่มีงบจำกัด และมีหลากหลายราคามากกว่า (ยกเว้นที่ทำจากใยฝ้ายแท้จะมีราคาแพง)
ข้อเสีย
- รองรับสรีระได้ไม่ดี คนที่มีอาการปวดหลังเป็นประจำ หรือกระดูกสันหลังไม่แข็งแรง ไม่แนะนำให้ใช้
- ป้องกันแรงสั่นสะเทือนจากคนข้าง ๆ ได้ไม่ดี
- ทนทานน้อยกว่าท็อปเปอร์ชนิดอื่น เพราะยุบตัวและเสียรูปได้ง่ายเมื่อใช้งานเป็นเวลานาน
- ระบายอากาศได้ไม่ดี นอนนาน ๆ แล้วอาจรู้สึกร้อน
- ถ้าเลือกที่ทำจากใยสังเคราะห์ อาจมีกลิ่นสารเคมีรบกวน
- เป็นแหล่งสะสมตัวของไรฝุ่น คนที่มีปัญหาเรื่องทางเดินหายใจต้องระวัง
2. ท็อปเปอร์ขนสัตว์
ข้อดี
- มีลักษณะนุ่มนิ่มสูง ให้ความรู้สึกเหมือนนอนบนสำลีหรือผ้านวม เหมาะกับคนที่ชอบนอนนุ่มเป็นพิเศษ
- ไม่มีสารเคมี เหมาะกับคนที่อยากหลีกเลี่ยงกลิ่นสารเคมีในห้องนอน
- ไม่สะสมความร้อน ระบายอากาศได้ดีในระดับหนึ่ง
- ราคาถูก เมื่อเทียบกับท็อปเปอร์เมมโมรี่โฟมและท็อปเปอร์ยางพารา (ยกเว้นชนิดที่ทำจากขนแกะแท้ อาจจะราคาสูง)
ข้อเสีย
- ป้องกันแรงสั่นสะเทือนได้ไม่ดี
- รองรับสรีระร่างกายได้ไม่ดี ไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาด้านกระดูกและกล้ามเนื้อ
- ถ้าซื้อแบบธรรมดา อายุการใช้งานค่อนข้างสั้น เพราะขนภายในจะลีบแบนลงเรื่อย ๆ ต้องคอยจัดทรงให้กลับมาพองฟูเหมือนเดิม
- เมื่อใช้ไปนาน ๆ วัสดุด้านในอาจเล็ดลอดออกมาจนได้กลิ่นของขนสัตว์ชนิดนั้น ๆ และไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นภูมิแพ้
3. ท็อปเปอร์เมมโมรี่โฟม
ข้อดี
- รองรับสรีระโดยรวมของผู้นอนได้ดี
- ป้องกันแรงสั่นสะเทือนจากคนร่วมเตียงได้ดี
- มีความหนาแน่นให้เลือกหลากหลาย
- พื้นผิวนุ่ม เมื่อลองใช้มือกดแล้วปล่อยจะสังเกตเห็นว่าค่อย ๆ ฟูขึ้น จึงเหมาะกับคนที่ชอบนอนแบบนุ่ม ๆ
- ทนทานกว่าท็อปเปอร์แบบขนสัตว์
ข้อเสีย
- อาจเจอกลิ่นสารเคมีในช่วงแรก และเมื่อผ่านการใช้งานมานานจนเสื่อมสภาพ
- ท็อปเปอร์เมมโมรี่โฟมทั่วไปจะไม่ระบายอากาศ ทำให้นอนแล้วร้อน แต่ถ้าเลือกแบบที่ระบายอากาศได้ ก็จะมีราคาสูงขึ้น
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาปวดหลัง ปวดคอ เพราะความนุ่มจะทำให้สรีระโค้งงอมากขึ้น อาจทำให้อาการแย่ลง
- การที่ไม่มีความยืดหยุ่นและคืนตัวในทันที ทำให้เวลาพลิกตัวอาจมีอุปสรรคเล็กน้อย คนที่เปลี่ยนท่านอนบ่อยอาจไม่ชอบ
4. ท็อปเปอร์ยางพารา
ข้อดี
- ความยืดหยุ่นสูงสุด ทำให้โครงสร้างร่างกายของผู้นอนได้เรียงตัวอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะกับคนที่ต้องการดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ
- เป็นท็อปเปอร์ที่มีความนุ่มแต่แน่นไปในตัว จึงช่วยปกป้องที่นอนที่อยู่ชั้นล่างไปด้วย
- ระบายอากาศได้ดีเยี่ยมเพราะมีรูพรุนทั่วทั้งผืน น้ำยางพารายังดูดซับความร้อนจากร่างกายของผู้นอนได้ดี ทำให้นอนแล้วเย็นสบาย และไม่มีกลิ่นอับชื้น
- ป้องกันแรงสั่นสะเทือนได้สูงสุด
- ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานสูง สามารถใช้ได้ยาวนานมากถึง 15 ปี
- เป็นมิตรต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เพราะในกระบวนการผลิตจะใช้น้ำยางพาราแท้มาอัดฉีดขึ้นรูปทั้งก้อน – ป้องกันไรฝุ่น เชื้อรา หรือสารก่อภูมิแพ้อื่น ๆ เพราะโครงสร้างของยางพารา ไม่เหมาะแก่การเจริญเติบโตของไรฝุ่น
ข้อเสีย
- ราคาสูงกว่าท็อปเปอร์ชนิดอื่น ๆ เพราะไม่ผสมฟองน้ำหรือเศษยางพาราอัด แต่ต้องใช้น้ำยางพาราแท้ 100 %
- มีกลิ่นยางพาราโดดเด่นในช่วง 2-3 วันแรกที่ใช้งาน
ใครที่สนใจท็อปเปอร์ยางพารา ต้องมองหาแบรนด์ PATEX
เพราะ PATEX คือเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องนอนยางพาราที่วิจัยและพัฒนามานานกว่า 50 ปี มีการนำเทคโนโลยีอย่างระบบรองรับ 7 โซน (7-Body Zone Support System) ที่ผ่านการรองรับจาก Germany มาผสมผสาน พร้อมกับสร้างสรรค์นวัตกรรมเครื่องนอนปลอดเชื้อโรค ซึ่งเนื้อยางพาราจะผสมอนุภาค Nano-Zinc Oxide ที่ช่วยป้องกันและกำจัดเชื้อราหรือแบคทีเรียได้ 99.99% ตลอดอายุการใช้งาน ทำให้ได้เป็นเครื่องนอนยางพาราที่เข้าใจสรีระคนไทย
หนึ่งในสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างสูงไม่แพ้ที่นอนก็คือ ท็อปเปอร์ยางพาราที่ได้มาตรฐาน เพราะช่วยให้ยกระดับคุณภาพการนอนให้คนไทยได้อย่างดีที่สุด โดยไม่ต้องเปลี่ยนที่นอนใหม่ และตอนนี้เรายังพัฒนาได้เป็นท็อปเปอร์ยางพารารุ่นใหม่ล่าสุด คือ Topper รุ่น Flow ใครอยากรู้ว่าดีขนาดไหน อย่าลืมเข้าไปคลิกชมรายละเอียดสินค้า และถ้ามีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถทักมาสอบถามได้ทั้งทางสายด่วน ช่องทาง LINE ของ Patex หรือเพจ Facebook ท็อปเปอร์ยางพารา by Patex Store เรามีทีมงานคอยให้บริการคุณอยู่เสมอนะคะ